'คลอปป์'โล่งทำลายอาถรรพณ์ 'นัดชิงดำ'ได้แชมป์เสียที
กีฬา
Webmaster
2019-06-02 10:47:00
11
Webmaster
2019-06-02 10:47:00
11
-
สนับสนุนเนื่อหา
เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือคนเก่งของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยอมรับโล่งอกสุดๆ หลังสามารถพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองได้สำเร็จ ด้วยการชนะ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงมาดริด หลังจาก ลิเวอร์พูล เป็นได้แค่พระรองปีก่อน อีกทั้ง 6 ครั้งหลังสุดก่อนหน้านี้ของคลอปป์ ในรอบชิงดำ ลงเอยด้วยความปราชัยทุกครั้ง
"ผมรู้สึกโล่งอกสุดๆ เลย สำหรับครอบครัวผมก็ด้วย เราสนิทกันมาก 6 ครั้งหลังสุด เราไปพักผ่อนด้วยกันพร้อมเหรียญเงิน ซึ่งมันไม่รู้สึกดีเท่าไร แต่ปีนี้มันต่างไปสิ้นเชิง มันยอดมาก สำหรับแฟนบอล สำหรับสโมสร พวกเขาไม่เคยกดดันเรา ชื่นชมในการพัฒนา ลำดับขั้นที่เราก้าวไป สำหรับนักเตะ เราน้ำตาคลอ เพราะมันเต็มไปด้วยความตื้นตัน มันยิ่งใหญ่และมีความหมายมาก"
ด้าน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ยกย่อง คลอปป์ คือคนที่สมควรได้รับคำยกย่องทั้งหมดว่า "หากไม่มีผู้จัดการทีม มันคงเป็นไปไม่ได้ คุณผ่านช่วงเวลาลำบากมากมาย แต่สิ่งที่เขาทำให้กับสโมสรนี้นับแต่ก้าวเข้ามา มันเหลือเชื่อ ไม่ใช่นักเตะที่ดึงเข้ามาทำให้ทีมแกร่งขึ้น แต่คนที่อยู่มาก่อนก็ดีกว่าเดิม ยังมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคำชมทั้งหมดต้องไปที่ผู้จัดการทีม"
ส่วน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ยังคงถ่อมตัวว่า ลีโอแนล เมสซี เป็นคนที่คู่ควรรางวัลบัลลงดอร์มากกว่าตนว่า "เมสซี เป็นนักเตะดีสุดในโลก เขาสมควรได้รางวัลตราบเท่าที่ลงเล่น บัลลงดอร์ ไม่ใช่สิ่งที่ผมนึกถึง หากได้ผมก็รับไว้ แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองมีโอกาส เขายังเก่งสุดในโลก ไม่สำคัญที่เขาไม่ได้เข้าชิงชนะเลิศ"
"ผมรู้สึกโล่งอกสุดๆ เลย สำหรับครอบครัวผมก็ด้วย เราสนิทกันมาก 6 ครั้งหลังสุด เราไปพักผ่อนด้วยกันพร้อมเหรียญเงิน ซึ่งมันไม่รู้สึกดีเท่าไร แต่ปีนี้มันต่างไปสิ้นเชิง มันยอดมาก สำหรับแฟนบอล สำหรับสโมสร พวกเขาไม่เคยกดดันเรา ชื่นชมในการพัฒนา ลำดับขั้นที่เราก้าวไป สำหรับนักเตะ เราน้ำตาคลอ เพราะมันเต็มไปด้วยความตื้นตัน มันยิ่งใหญ่และมีความหมายมาก"
ด้าน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ยกย่อง คลอปป์ คือคนที่สมควรได้รับคำยกย่องทั้งหมดว่า "หากไม่มีผู้จัดการทีม มันคงเป็นไปไม่ได้ คุณผ่านช่วงเวลาลำบากมากมาย แต่สิ่งที่เขาทำให้กับสโมสรนี้นับแต่ก้าวเข้ามา มันเหลือเชื่อ ไม่ใช่นักเตะที่ดึงเข้ามาทำให้ทีมแกร่งขึ้น แต่คนที่อยู่มาก่อนก็ดีกว่าเดิม ยังมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคำชมทั้งหมดต้องไปที่ผู้จัดการทีม"
ส่วน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ยังคงถ่อมตัวว่า ลีโอแนล เมสซี เป็นคนที่คู่ควรรางวัลบัลลงดอร์มากกว่าตนว่า "เมสซี เป็นนักเตะดีสุดในโลก เขาสมควรได้รางวัลตราบเท่าที่ลงเล่น บัลลงดอร์ ไม่ใช่สิ่งที่ผมนึกถึง หากได้ผมก็รับไว้ แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองมีโอกาส เขายังเก่งสุดในโลก ไม่สำคัญที่เขาไม่ได้เข้าชิงชนะเลิศ"
