ข่าวอาซาร์เบิ้ลนำเชลซีอัดปืนใหญ่ผงาดแชมป์ยูโรป้าสมัย2 - kachon.com

อาซาร์เบิ้ลนำเชลซีอัดปืนใหญ่ผงาดแชมป์ยูโรป้าสมัย2
กีฬา

photodune-2043745-college-student-s
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2018/19 เมื่อวันพุธที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา รอบชิงชนะเลิศ ที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน เป็นการพบกันระหว่าง 2 ทีมจากอังกฤษ ผลปรากฏว่า "สิงห์บลูส์" เชลซี ภายใต้การคุมทัพของ เมาริซิโอ ซาร์รี กุนซือชาวอิตาเลี่ยน โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม ไล่อัด "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล กระบอกแตก 4-1 ผงาดคว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 2 หลังเคยได้แชมป์หนแรกในซีซั่น 2012–13

โดย เชลซี ได้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ โหม่งสุดสวยเป็นประตูเบิกร่องขึ้นนำ 1-0 ในนาที 49 ถือเป็นประตูที่ 11 ของเขาในรายการนี้ ทำให้ดาวยิงแดนน้ำหอมคว้าดาวซัลโวไปครอง ด้านซูเปอร์สตาร์ตัวชูโรง เอแด็ง อาซาร์ ระเบิดฟอร์มซัดเบิ้ลในนาที 65 (จุดโทษ) และ 72 อีกหนึ่งประตูได้จาก เปโดร ในนาที 60 ส่วน อาร์เซนอล ที่เกมนี้ 2 คู่หูดาวซัลโว อเล็กซองเดร ลากาแซตต์ กับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง โชว์ฟอร์มไม่ออก เช่นเดียวกับเพลย์เมกเกอร์ชาวเยอรมัน เมซุต โอซิล ที่แผลงฤทธิ์ไม่ได้เช่นกัน ได้ประตูตีไข่แตกจาก อเล็กซ์ อิโวบี นาที 69

แชมป์รายการนี้ทำให้ ซาร์รี ทำสถิติเป็นกุนซือชาวอิตาเลี่ยนคนแรกที่พาทีมได้แชมป์ยุโรป นับตั้งแต่ที่ อัลแบร์โต มาเลซานี เคยนำ ปาร์มา คว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ เมื่อปี 1999 ฝ่าย อาซาร์ นี่อาจเป็นเกมนัดสุดท้ายของเขากับ เชลซี ถือเป็นการจากลาที่ดีในการคว้าแชมป์ไปครอง โดยเขามีข่าวลืออย่างหนักว่า จะย้ายไปค้าแข้งกับ "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งแดนกระทิงดุ ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 3 มิ.ย. นี้

ด้าน อูไม เอเมอรี กุนซือชาวสแปนิชของ อาร์เซนอล ที่เคยนำทีมคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก 3 สมัยซ้อน (2013–14, 2014–15, 2015–16) ต้องพบกับความผิดหวังเป็นครั้งแรกในการเข้าชิงฟุตบอลถ้วยยุโรป รวมทั้งทำให้ อาร์เซนอล พลาดคว้าโควต้าไปลุยฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ได้เล่นแค่ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เท่านั้น ส่งผลให้พวกเขาอาจมีเงินช้อปปิ้งในซัมเมอร์นี้แค่ 40 ล้านปอนด์ สำหรับ ปีเตอร์ เช็ก นี่คือเกมเฝ้าเสานัดสุดท้ายในอาชีพค้าแข้งของเขา เนื่องจากเขาประกาศรีไทร์หลังจบเกมนี้ เป็นที่น่าเสียดายว่า เช็ก ไม่สามารถคว้าแชมป์ปิดท้ายอาชีพได้

หลังจบเกม เปโดร ผู้ทำ 1 ประตูให้ เชลซี คว้าแชมป์ กล่าวเปิดใจว่า "ครึ่งหลังเป็นเกมที่เปิดมากขึ้น เราทำได้ดี ผ่านบอลไปมาระหว่างไลน์ได้รวดเร็วกว่าในครึ่งแรก เป็นความรู้สึกที่น่าเหลือเชื่อมาก ๆ เป็นอีกหนึ่งถ้วยแชมป์ยุโรป และอีกหนึ่งประตูในเกมรอบชิงชนะเลิศของผม"

ส่วน ชิรูด์ ผู้โหม่งประตูเบิกร่องให้ "สิงห์บลูส์" และเป็นดาวซัลโวยูโรป้าซีซั่นนี้ กล่าวว่า "ครึ่งแรกเป็นเกมที่น่าสนใจ แต่ไม่มีประตู นี่เป็นรอบชิงชนะเลิศที่ดี และเราทำได้ดีกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่าในครึ่งหลัง ผมรู้สึกภูมิใจมาก ทีมสมควรได้รับชัยชนะ นี่เป็นแชมป์ที่พิเศษสำหรับผม ผมมีความสุขกับสโมสรแห่งนี้ นี่คือแชมป์ที่ 2 ในรอบ 2 ปีของผม"

ฝั่ง ดาวิด ลุยซ์ กองหลังแดนแซมบ้าของเชลซี กล่าวเพิ่มเติมว่า "เรามีช่วงเวลาขึ้น ๆ ลง ๆ แต่เรามีการพัฒนา เราได้เรียนรู้มากมาย และจบฤดูกาลได้ดีเยี่ยม ซาร์รี เป็นคนที่ยอดเยี่ยม และเป็นโค้ชที่ดีมาก ดังนั้น เขาสมควรได้รับมันแล้ว".