ข่าว"บีซ"ปั่นผงาดแชมป์วันเดย์เรซตราดพร้อมตีตั๋วโอลิมปิก - kachon.com

"บีซ"ปั่นผงาดแชมป์วันเดย์เรซตราดพร้อมตีตั๋วโอลิมปิก
กีฬา

photodune-2043745-college-student-s
SP 260562 จักรยาน


การแข่งขันจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ตราด 2019” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี เมื่อวันที่ 26 พ.ค. เป็นการแข่งขันประเภทวันเดย์เรซ ระดับ “ยูซีไอ อีลิท 1.1” แข่งวันเดียวจบ เส้นทางจากหน้าศาลากลางจังหวัดตราด ไปเข้าเส้นชัยที่ อ.แหลมงอบ ระยะทาง 93.8 กม. โดยพิธีเปิดปล่อยตัวนักกีฬา ได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธาน

สำหรับการแข่งขัน เมื่อถึงจุด “เจ้าความเร็ว” หรือ IS ลี จู มี กัปตันทีมเกาหลีใต้คว้า IS ไปครอง จากนั้น เข้าสู่ช่วง 1 กม.สุดท้าย “บีซ” จุฑาธิป มณีพันธุ์ ที่เร่งเครื่องขึ้นมาเกาะกลุ่มหัวแถว ก่อนที่จะเข้าทางตรง 200 เมตร “บีซ” ตัดสินใจฉีกออกแล้วยกสปรินต์ทันที และเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก คว้าแชมป์ไปครอง

สรุปผลการแข่งขัน วันเดย์เรซ ประเภทบุคคล ชนะเลิศ “บีซ” จุฑาธิป นักปั่นสาวไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม ได้ “เสื้อส้ม” ไปครอง, ที่ 2 ยูมิ คาจิฮาร่า (ทีมชาติญี่ปุ่น), ที่ 3 ยู ซอน ฮา (ทีมชาติเกาหลีใต้) เวลา 2.27.42 ชั่วโมงเท่ากัน โดยมี จันทร์เพ็ง นนทะสิน เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 12

ประเภทบุคคลอาเซียน ชนะเลิศ “บีซ” จุฑาธิป ได้ “สื้อฟ้า” ไปครองอีกตัว, ประเภททีมเวลารวม ชนะเลิศ ทีมชาติเกาหลีใต้ ส่วนประเภททีมอาเซียน ชนะเลิศ ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม เวลา 7.23.12 ชั่วโมง, รางวัลเจ้าความเร็ว ที่ 1 ลี จู มี (ทีมชาติเกาหลีใต้), ที่ 2 ไดอาน่า คลีโมว่า (ทีมชาติรัสเซีย), ที่ 3 จันทร์เพ็ง นนทะสิน ด้านรางวัลนักบู๊ยอดเยี่ยม ได้แก่ อนาสตาเซีย พลิอาสกิน่า (ทีมชาติรัสเซีย)


ด้านนักกีฬาและทีมที่ได้ครองถ้วยพระราชทาน ทั้ง 9 ถ้วย แบ่งเป็น ถ้วยพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในประเภทสเตจเรซ จำนวน 5 ถ้วย ประกอบด้วย ถ้วยบุคคลเวลารวม ได้แก่ ยูมิ คาจิฮาร่า (ทีมชาติญี่ปุ่น), ถ้วยทีมเวลารวม ได้แก่ ทีมเกาหลีใต้, ถ้วยคะแนนรวม (เจ้าความเร็ว) ได้แก่ จุฑาธิป มณีพันธุ์, ถ้วยบุคคลอาเซียน ได้แก่ จุฑาธิป มณีพันธุ์ และ ถ้วยทีมอาเซียน ได้แก่ ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม

ถ้วยพระราชทานของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ในประเภทวันเดย์เรซ จำนวน 4 ถ้วย ประกอบด้วย ถ้วยประเภทบุคคล ได้แก่ จุฑาธิป มณีพันธุ์, ถ้วยทีมเวลารวม ได้แก่ เกาหลีใต้, ถ้วยบุคคลอาเซียน ได้แก่ จุฑาธิป มณีพันธุ์ และ ถ้วยทีมอาเซียน ได้แก่ ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม

หลังการแข่งขัน พล.อ.เดชา กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย แม้ในประเภทสเตจเรซ จุฑาธิป จะได้ที่ 2 แต่คะแนนรวมกับเพื่อน ๆ ก็ได้มาถึง 154 คะแนน ในวันเดย์เรซ จุฑาธิป เข้าที่ 1 ก็ได้มาอีก 125 คะแนน เราได้ไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่นแน่นอนแล้ว 1 คน คือ จุฑาธิป ส่วนจะได้เพิ่มเป็น 2 หรือ 3 ก็ต้องลุ้นกันต่อไป ตอนนี้คะแนน “โอลิมปิก แรงกิ้ง” ของทีมชาติไทยน่าจะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 9 หรือ 10 โดยการคว้าโควต้าโอลิมปิก ต้องอยู่ 1 ใน 22 อันดับแรก จึงมีโอกาสสูงที่จะได้โควต้าโอลิมปิก ในจักรยานประเภทถนนสตรี เพิ่มอีก 1 คน

ด้าน จุฑาธิป กล่าวว่า วันนี้เราทำเต็มที่กันทุกคน วางแผนมาดี รวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่ปล่อยให้ใครหนี ส่วนการที่ไม่ขึ้นไปเก็บ IS เพราะไม่มีผลต่อคะแนน ช่วงที่เหลือระยะทาง 15-10 กม. เหนื่อยมาก ยิ่งเหลือ 5 กม. ก็ยิ่งบีบหัวใจ พอถึง 300 เมตรก่อนเข้าเส้นชัย นักปั่นเกาหลีใต้ พยายามเบียดดักทางซ้าย แต่ตนเองเปลี่ยนเกมฉีกหนีออกขวา พุ่งเข้าเส้นชัยคนแรก ยอมรับว่าทุกคนเหนื่อยสุด ๆ พวกเราทำเต็มที่ทุกแมตช์ แต่ถึงเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องอดทน ต้องสู้ เพราะอยากเห็นนักปั่นไทยไปโอลิมปิก 2 หรือ 3 คน ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ทุกคนคือทีมชาติไทย วันนี้เราประสบผลสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว

สำหรับคะแนนที่ จุฑาธิป ทำได้จากรายการ ทัวร์ ออฟ ตราด โกยคะแนนไปทั้งสิ้น 235 คะแนน เมื่อรวมกับคะแนนเก่าที่สะสมไว้ก่อนหน้านี้ 376 คะแนน ก็จะมีเต้มสะสมทั้งสิ้น 611 คะแนน คาดว่าอันดับ “โอลิมปิก แรงกิ้ง” ของจุฑาธิป จะขึ้นจากที่ 50 ไปอยู่ท็อป 30 แน่นอน.