"อุบลราชธานี"สอยทองตะกร้อทีมชุดปิดบุรีรัมย์เกมส์
กีฬา
สำหรับการชิงชัยวันสุดท้าย มีชิงกัน 44 เหรียญทอง ไฮไลต์อยู่ที่ เซปักตะกร้อ ชิง 2 ทอง โดย ทีมชุดชาย รอบชิงชนะเลิศ "แชมป์เก่า" นครปฐม เจอกับ อุบลราชธานี ที่ก่อนหน้านี้เก็บไปแล้ว 1 ทอง จากทีมเดี่ยวชาย ซึ่งคู่นี้เคยดวลกันมาแล้วในรอบแรก เพราะอยู่สาย A ร่วมกัน เป็น อุบลราชธานี ที่เคยชนะมาก่อน 2-0 ทีมในรอบแรก ซึ่งผลปรากฎว่า อุบลราชธานี ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงไม่เลิก จัดการฟาดเอาชนะไปได้ 2-0 ทีม (ผล ทีม ก.21-11, 16-21, 21-7 ทีม ข. 21-17, 22-20) ย้ำแค้นพร้อมกับคว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ ส่วน ทีมชุดหญิง รอบชิงชนะเลิศ ราชบุรี เจ้าของแชมป์เก่า 2 สมัยซ้อน พบกับ กทม. ปรากฎว่า สาวราชบุรี โชว์ลีลาสมราคาแชมป์เก่า เตะเฉือนชนะ กทม. ไปได้ 2-1 ทีม คว้าทองไปครองเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน
หลังเกม นายเกรียงไกร มุทาลัย อดีตนักตะกร้อทีมชาติโค้ชทีมชายอุบลราชธานี กล่าวว่า ก่อนแข่งไม่ได้คิดอะไรมาก แค่บอกเด็กให้เล่นให้ได้เหมือนกับที่ฝึกซ้อมมา เพราะถ้าเราเล่นได้ตามที่ซ้อมก็คิดว่าคู่แข่งกินเรายาก ซึ่งตนเองมั่นใจมากตั้งแต่ทีม ก. แล้ว พอมาทีม ข .ก็ยังมั่นใจเหมือนเดิม ฝั่งนครปฐม ทีม ข. เปลี่ยนเอา "เจ้าโอ๊ต" สหการ ซุยยัง ดีกรีเยาวชนทีมชาติ ลงมาเล่น แต่คู่หน้าเขาถือว่ายังเด็กอยู่ สำคัญคือเด็กเรามีประสบการณ์มากกว่า ส่วนในบุรีรัมย์เกมส์ครั้งนี้ที่คว้าได้ 2 ทองจากทีมเดี่ยวและทีมชุดนั้น ตนเองมองว่าทำได้เกินเป้าหมาย แต่ตนก็หวังไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว หวังแม้กระทั่งตะกร้อคู่ชาย แต่เมื่อไม่ได้ก็ไม่เป็นไร โดยมาถึงตรงนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ นับเป็นการสร้างผลงานคว้า 2 แชมป์เป็นครั้งที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้ในอดีตย้อนไปกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 24 "ดอกบัวเกมส์" เมื่อปี 2551 ที่ จ.อุบลราชธานี เป็นเจ้าภาพ ทีมตะกร้อชายอุบลราชธานี เคยคว้าได้ 2 เหรียญทองแบบนี้ จากทีมเดี่ยว-ทีมชุด
วอลเลย์บอล ชิง 2 ทอง ทีมหญิง รอบชิงชนะเลิศ เป็นการรีแมตช์คู่ชิงชนะเลิศจากศึกกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 "น่านเกมส์" เมื่อปีที่แล้ว โดย "แชมป์เก่า" นนทบุรี ดวลกับ พระนครศรีอยุธยา ปรากฎว่า นนทบุรี ยังคงโชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์เก่า ตบย้ำแค้น เอาชนะไปได้อีกครั้ง 3-1 เซต 25-15, 25-27, 25-7, 25-17 คว้าแชมป์ไปครองอีกสมัย ขณะที่ ทีมชาย รอบชิงชนะเลิศ ขอนแก่น ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการโค่นเอาชนะ "แชมป์เก่า" สุพรรณบุรี ไปได้ 3-0 เซต 25-18, 25-15, 25-20 คว้าทองไปครอง
วอลเลย์บอลชายหาด ชิง 4 ทอง ปรากฎว่า กาญจนาบุรี กวาดไป 2 ทอง ได้จาก รุ่นยุวชนหญิง รอบชิงชนะเลิศ กาญจนบุรี (ปวีณา เติมกระโทก-วิมลมาศ จันทะโสตถิ์) ชนะ กาฬสินธุ์ 2-0 เซต 21-8, 21-13 และรุ่นเยาวชนหญิง รอบชิงชนะเลิศ กาญจนบุรี (จุฑามาศ สังข์ยัง-ชนินท์พร หมื่นผัด) ชนะ กทม.2-0 เซต 21-18, 21-7 ขณะที่ รุ่นยุวชนชาย ที่ 1 นนทบุรี ส่วน รุ่นเยาวชนชาย ที่ 1 กาฬสินธุ์
แบดมินตัน ชิง 7 ทอง ปรากฎว่า ทัพนักตบลูกขนไก่ กทม. กวาดได้ถึง 5 ทอง ได้จาก ประเภทยุวชนชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ วงศ์ทรัพย์ วงศ์ทรัพย์อินทร์ (กทม.) ชนะ ชยกร สูตรเลข (กทม.2) 2-0 เกม 21-13, 21-13, หญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ อทิตยา โปวานนท์ (กทม.2) ชนะ กฤตพร เจียรธเนศ (กทม.) 2-0 เกม 21-18, 21-14, คู่ผสม รอบชิงชนะเลิศ สิรวิชญ์ โสทน-พิชญานิน อังคะ (กทม.) ชนะ ณัฐชนันพร รุ่งพิบูลโสภิษฐ์-อัครพัชร์ วนเจริญวงศ์ (ระยอง) 2-1 เกม 21-17, 17-21, 21-8, หญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ ทิตยา โปวานนท์-ญาณิสา ชื่นเจริญ (กทม.) ชนะ ทิพธิดา คงสอน-พิชญานิน อังคะ (กทม.2) 2-0 เกม 21-16, 21-17 และชายคู่ รอบชิงชนะเลิศ สิรวิชญ์ โสทน-ธนดล พันธ์พานิช (กทม.) ชนะ ปราชญ์ ตั้งศรีรพีพันธ์-อานิก พลังวชิรา (กทม.2) 2-0 เกม 22-20, 21-17 ส่วนชายเดี่ยว ที่ 1 วรท อุไรวงค์ (ปราจีนบุรี), หญิงเดี่ยวรุ่นยุวชน ที่ 1 พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ (เชียงใหม่)
ส่วนผลชิงทองกีฬาอื่น ๆ มีดังนี้ รักบี้ 15 คนทีมชาย ชิง 1 ทอง ที่ 1 นครปฐม, กาบัดดี้ ชิง 2 ทอง ทีมหญิง ที่ 1 นครศรีธรรมราช, ทีมชาย ที่ 1 นครศรีธรรมราช, เรือพาย ชิง 12 ทอง คยัค ชาย 1 คน (200 เมตร) ที่ 1 ปฐมฤกา ยืนชัย (เชียงใหม่), 43.93 วินาที, คยัค หญิง 2 คน (200 เมตร) ที่ 1 เชียงใหม่ 46.57 วินาที, แคนู ชาย 1 คน (200 เมตร) ที่ 1 พิตรพิบูล มหาวัฒนางกูล (กทม.) 46.59 วินาที, คยัค หยิง (200 เมตร) อายุ 15 ปี ที่ 1 ปานวาด ทองนิ่ม (นครนายก) 56.30 วินาที, เรือยาว 5 ฝีพาย (200 เมตร) ที่ 1 มุกดาหาร 45.96 วินาที, เรือยาวมังกร 10 ฝีพายหญิง (200 เมตร) ที่ 1 มุกดาหาร 1.14.80 นาที, คยัค หญิง 1 คน (200 เมตร) ที่ 1 กานต์ธิดา หนูรุ่น (เชียงใหม่) 52.30 วินาที, คยัค ชาย 2 คน (200 เมตร) ที่ 1 กระบี่ 41.02 วินาที, แคนู ชาย 2 คน (200 เมตร) ที่ 1 กทม. 46.40 วินาที, คยัค 1 คนชาย (200 เมตร) อายุ 15 ปี ที่ 1 ศักรินทร์ จองคำ (เชียงใหม่) 44.80 วินาที, เรือยาว 5 ฝีพายหญิง (200 เมตร) ที่ 1 อุตรดิตถ์ 55.84 วินาที, เรือยาวมังกร 10 ฝีพายชาย (200 เมตร) ที่ 1 นนทบุรี 1.03.19 นาที, วู้ดบอล ชิง 2 ทอง นับจำนวนการตี บุคคลชาย ที่ 1 พลวัฒน์ วิชัยพันธ์พักตร์ (กาญจนบุรี), นับจำนวนการตี บุคคลหญิง ที่ 1 ณัฐฌา แก้วเดชะ (ชุมพร)
๐บุรีรัมย์เล็งจัดกีฬาแห่งชาติต่อไป
นายกฤษฎา แก้วสองเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของบุรีรัมย์เกมส์หนนี้ถือว่าน่าพอใจมาก ซึ่งช่วงแรกแม้จะเจออุปสรรคสภาพอากาศฝนตก แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือ และแก้ไขสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี จึงถือว่าการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ประสบความสำเร็จจากความร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวบุรีรัมย์ ตนเองต้องขอบคุณ กกท. ที่มอบหมายให้บุรีรัมย์เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้่ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตบุรีรัมย์ก็ได้มีการพุดคุยกันว่าจะยกระดับไปรับเป็นเจ้าภาพกีฬาแห่งชาติ เพราะที่ผ่านมาบุรีรัมย์ผ่านการจัดอีเวนต์กีฬาระดับโลกมาแล้ว ทั้งโมโตจีพี และมาราธอน รวมทั้งกีฬาเยาชนแห่งชาติครั้งนี้ ซึ่งเราก็มีการพูดคุยกันในการที่จะพยายามผลักดันไปจัดกีฬาแห่งชาติต่อไป เพื่อทำให้กลายเป็นเมืองแห่งกีฬาอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับผลงานของนักกีฬาเยาวชนบุรีรัมย์ในครั้งนี้ คว้ามาได้ 11 ทอง, 6 เงิน, 14 ทองแดง ถือว่ายังต้องพัฒนาต่อไป เนื่องจากการพัฒนากีฬาสมัครเล่นจะต้องใช้ระยะเวลาการพัฒนาตั้งแต่ระดับเยาวชน ขณะที่กีฬาอาชีพของบุรีรัมย์ค่อนข้างไปได้ไกลแล้ว
สรุปเหรียญรางวัล (ทอง-เงิน-ทองแดง) อันดับ 1 กทม. 143-116-129, อันดับ 2 ชลบุรี 53-59-50, อันดับ 3 สุพรรณบุรี 47-33-46, อันดับ 4 นครราชสีมา 46-24-29, อันดับ 5 เชียงใหม่ 29-31-47, อันดับ 6 นครศรีธรรมราช 26-24-33, อันดับ 7 สมุทรปราการ 19-20-22, อันดับ 8 ศรีสะเกษ 19-12-29, อันดับ 9 ขอนแก่น 18-7-24, อันดับ 10 นนทบุรี 16-31-27
ทั้งนี้ ทัพนักกีฬา "เมืองหลวง" กทม. สามารถครองเจ้าเหรียญทองได้เป็นสมัยที่ 31 จากผลงานกวาดไปทั้งสิ้น 143 ทอง, 116 เงิน, 129 ทองแดง นอกจากนี้ยังทำลายสถิติเหรียญทองมากที่สุด โดยครั้งที่มากที่สุดคือน่านเกมส์ เมื่อปีที่แล้ว กทม. เคยทำไว้ 125 ทอง.