ข่าว"อุบลราชธานี"สอยทองตะกร้อทีมชุดปิดบุรีรัมย์เกมส์ - kachon.com

"อุบลราชธานี"สอยทองตะกร้อทีมชุดปิดบุรีรัมย์เกมส์
กีฬา

photodune-2043745-college-student-s
การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 "บุรีรัมย์เกมส์" ได้มีพิธีปิดการชิงชัยแล้ว ที่สนามกีฬา อบจ.บุรีรัมย์ (เขากระโดง สเตเดี้ยม) จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. โดยมี นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. และ นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ รวมทั้งคณะนักกีฬา และเจ้าหน้าที่จาก 77 จังหวัดร่วมพิธีปิด ซึ่งเจ้าภาพโชว์การแสดงที่สวยงามทั้งหมด 4 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1.การกีฬาผนึกรักสามัคคี, ชุดที่ 2. เรืองรวีพิธีการวันสดใส, ชุดที่ 3. อนุสรณ์แสงรักประจักษ์ใจ จากนั้นเป็นพิธีดับไฟในกระถางคบเพลิง พร้อมกับมอบธงประจำการแข่งขันให้ จ.ตราด เป็นเจ้าภาพจัดการชิงชัยครั้งต่อไป 

     
สำหรับการชิงชัยวันสุดท้าย มีชิงกัน 44 เหรียญทอง ไฮไลต์อยู่ที่ เซปักตะกร้อ ชิง 2 ทอง โดย ทีมชุดชาย รอบชิงชนะเลิศ "แชมป์เก่า" นครปฐม  เจอกับ อุบลราชธานี ที่ก่อนหน้านี้เก็บไปแล้ว 1 ทอง จากทีมเดี่ยวชาย ซึ่งคู่นี้เคยดวลกันมาแล้วในรอบแรก เพราะอยู่สาย A ร่วมกัน เป็น อุบลราชธานี ที่เคยชนะมาก่อน 2-0 ทีมในรอบแรก ซึ่งผลปรากฎว่า อุบลราชธานี ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงไม่เลิก จัดการฟาดเอาชนะไปได้ 2-0 ทีม (ผล ทีม ก.21-11, 16-21, 21-7 ทีม ข. 21-17, 22-20) ย้ำแค้นพร้อมกับคว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ ส่วน ทีมชุดหญิง รอบชิงชนะเลิศ ราชบุรี เจ้าของแชมป์เก่า 2 สมัยซ้อน พบกับ กทม. ปรากฎว่า สาวราชบุรี โชว์ลีลาสมราคาแชมป์เก่า เตะเฉือนชนะ กทม. ไปได้ 2-1 ทีม คว้าทองไปครองเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน     
     
หลังเกม นายเกรียงไกร มุทาลัย อดีตนักตะกร้อทีมชาติโค้ชทีมชายอุบลราชธานี กล่าวว่า ก่อนแข่งไม่ได้คิดอะไรมาก แค่บอกเด็กให้เล่นให้ได้เหมือนกับที่ฝึกซ้อมมา เพราะถ้าเราเล่นได้ตามที่ซ้อมก็คิดว่าคู่แข่งกินเรายาก ซึ่งตนเองมั่นใจมากตั้งแต่ทีม ก. แล้ว พอมาทีม ข .ก็ยังมั่นใจเหมือนเดิม ฝั่งนครปฐม ทีม ข. เปลี่ยนเอา "เจ้าโอ๊ต" สหการ ซุยยัง ดีกรีเยาวชนทีมชาติ ลงมาเล่น แต่คู่หน้าเขาถือว่ายังเด็กอยู่ สำคัญคือเด็กเรามีประสบการณ์มากกว่า ส่วนในบุรีรัมย์เกมส์ครั้งนี้ที่คว้าได้ 2 ทองจากทีมเดี่ยวและทีมชุดนั้น ตนเองมองว่าทำได้เกินเป้าหมาย แต่ตนก็หวังไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว หวังแม้กระทั่งตะกร้อคู่ชาย แต่เมื่อไม่ได้ก็ไม่เป็นไร โดยมาถึงตรงนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ นับเป็นการสร้างผลงานคว้า 2 แชมป์เป็นครั้งที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้ในอดีตย้อนไปกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 24 "ดอกบัวเกมส์" เมื่อปี 2551 ที่ จ.อุบลราชธานี เป็นเจ้าภาพ ทีมตะกร้อชายอุบลราชธานี เคยคว้าได้ 2 เหรียญทองแบบนี้ จากทีมเดี่ยว-ทีมชุด  

     
วอลเลย์บอล ชิง 2 ทอง ทีมหญิง รอบชิงชนะเลิศ เป็นการรีแมตช์คู่ชิงชนะเลิศจากศึกกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 "น่านเกมส์" เมื่อปีที่แล้ว โดย "แชมป์เก่า" นนทบุรี ดวลกับ พระนครศรีอยุธยา ปรากฎว่า นนทบุรี ยังคงโชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์เก่า ตบย้ำแค้น เอาชนะไปได้อีกครั้ง 3-1 เซต 25-15, 25-27, 25-7, 25-17 คว้าแชมป์ไปครองอีกสมัย ขณะที่ ทีมชาย รอบชิงชนะเลิศ ขอนแก่น ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการโค่นเอาชนะ "แชมป์เก่า" สุพรรณบุรี ไปได้  3-0 เซต 25-18, 25-15, 25-20 คว้าทองไปครอง
     
วอลเลย์บอลชายหาด ชิง 4 ทอง ปรากฎว่า กาญจนาบุรี กวาดไป 2 ทอง ได้จาก รุ่นยุวชนหญิง รอบชิงชนะเลิศ กาญจนบุรี (ปวีณา เติมกระโทก-วิมลมาศ จันทะโสตถิ์) ชนะ กาฬสินธุ์ 2-0 เซต 21-8, 21-13 และรุ่นเยาวชนหญิง รอบชิงชนะเลิศ กาญจนบุรี (จุฑามาศ สังข์ยัง-ชนินท์พร หมื่นผัด) ชนะ กทม.2-0 เซต 21-18, 21-7 ขณะที่ รุ่นยุวชนชาย ที่ 1 นนทบุรี ส่วน รุ่นเยาวชนชาย ที่ 1 กาฬสินธุ์  

     
แบดมินตัน ชิง 7 ทอง ปรากฎว่า ทัพนักตบลูกขนไก่ กทม. กวาดได้ถึง 5 ทอง ได้จาก ประเภทยุวชนชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ วงศ์ทรัพย์  วงศ์ทรัพย์อินทร์ (กทม.) ชนะ ชยกร สูตรเลข (กทม.2) 2-0 เกม 21-13, 21-13, หญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ อทิตยา โปวานนท์ (กทม.2) ชนะ กฤตพร เจียรธเนศ (กทม.) 2-0 เกม 21-18, 21-14, คู่ผสม รอบชิงชนะเลิศ สิรวิชญ์ โสทน-พิชญานิน อังคะ (กทม.) ชนะ ณัฐชนันพร รุ่งพิบูลโสภิษฐ์-อัครพัชร์ วนเจริญวงศ์ (ระยอง) 2-1 เกม 21-17, 17-21, 21-8, หญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ ทิตยา โปวานนท์-ญาณิสา ชื่นเจริญ (กทม.) ชนะ ทิพธิดา คงสอน-พิชญานิน อังคะ (กทม.2) 2-0 เกม 21-16, 21-17 และชายคู่ รอบชิงชนะเลิศ สิรวิชญ์ โสทน-ธนดล พันธ์พานิช (กทม.) ชนะ ปราชญ์ ตั้งศรีรพีพันธ์-อานิก พลังวชิรา (กทม.2) 2-0 เกม 22-20, 21-17  ส่วนชายเดี่ยว ที่ 1 วรท อุไรวงค์ (ปราจีนบุรี), หญิงเดี่ยวรุ่นยุวชน ที่ 1 พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ (เชียงใหม่)

     
ส่วนผลชิงทองกีฬาอื่น ๆ มีดังนี้ รักบี้ 15 คนทีมชาย ชิง 1 ทอง ที่ 1 นครปฐม, กาบัดดี้ ชิง 2 ทอง ทีมหญิง ที่ 1 นครศรีธรรมราช, ทีมชาย ที่ 1 นครศรีธรรมราช, เรือพาย ชิง 12 ทอง คยัค ชาย 1 คน (200 เมตร) ที่ 1 ปฐมฤกา ยืนชัย (เชียงใหม่), 43.93 วินาที, คยัค หญิง 2 คน (200 เมตร) ที่ 1 เชียงใหม่ 46.57 วินาที, แคนู ชาย 1 คน (200 เมตร) ที่ 1 พิตรพิบูล มหาวัฒนางกูล (กทม.) 46.59 วินาที, คยัค หยิง (200 เมตร) อายุ 15 ปี ที่ 1 ปานวาด ทองนิ่ม (นครนายก) 56.30 วินาที, เรือยาว 5 ฝีพาย (200 เมตร) ที่ 1 มุกดาหาร 45.96 วินาที, เรือยาวมังกร 10 ฝีพายหญิง (200 เมตร) ที่ 1 มุกดาหาร 1.14.80 นาที, คยัค หญิง 1 คน (200 เมตร) ที่ 1 กานต์ธิดา หนูรุ่น (เชียงใหม่) 52.30 วินาที, คยัค ชาย 2 คน (200 เมตร) ที่ 1 กระบี่ 41.02 วินาที, แคนู ชาย 2 คน (200 เมตร) ที่ 1 กทม. 46.40 วินาที, คยัค 1 คนชาย (200 เมตร) อายุ 15 ปี ที่ 1 ศักรินทร์ จองคำ (เชียงใหม่) 44.80 วินาที, เรือยาว 5 ฝีพายหญิง (200 เมตร) ที่ 1 อุตรดิตถ์ 55.84 วินาที, เรือยาวมังกร 10 ฝีพายชาย (200 เมตร) ที่ 1 นนทบุรี 1.03.19 นาที, วู้ดบอล ชิง 2 ทอง นับจำนวนการตี บุคคลชาย ที่ 1 พลวัฒน์ วิชัยพันธ์พักตร์ (กาญจนบุรี), นับจำนวนการตี บุคคลหญิง ที่ 1 ณัฐฌา แก้วเดชะ (ชุมพร)
     
๐บุรีรัมย์เล็งจัดกีฬาแห่งชาติต่อไป 
นายกฤษฎา แก้วสองเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของบุรีรัมย์เกมส์หนนี้ถือว่าน่าพอใจมาก ซึ่งช่วงแรกแม้จะเจออุปสรรคสภาพอากาศฝนตก แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือ และแก้ไขสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี จึงถือว่าการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ประสบความสำเร็จจากความร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวบุรีรัมย์ ตนเองต้องขอบคุณ กกท. ที่มอบหมายให้บุรีรัมย์เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้่ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตบุรีรัมย์ก็ได้มีการพุดคุยกันว่าจะยกระดับไปรับเป็นเจ้าภาพกีฬาแห่งชาติ เพราะที่ผ่านมาบุรีรัมย์ผ่านการจัดอีเวนต์กีฬาระดับโลกมาแล้ว ทั้งโมโตจีพี และมาราธอน รวมทั้งกีฬาเยาชนแห่งชาติครั้งนี้ ซึ่งเราก็มีการพูดคุยกันในการที่จะพยายามผลักดันไปจัดกีฬาแห่งชาติต่อไป เพื่อทำให้กลายเป็นเมืองแห่งกีฬาอย่างเต็มรูปแบบ  สำหรับผลงานของนักกีฬาเยาวชนบุรีรัมย์ในครั้งนี้ คว้ามาได้ 11 ทอง, 6 เงิน, 14 ทองแดง ถือว่ายังต้องพัฒนาต่อไป เนื่องจากการพัฒนากีฬาสมัครเล่นจะต้องใช้ระยะเวลาการพัฒนาตั้งแต่ระดับเยาวชน ขณะที่กีฬาอาชีพของบุรีรัมย์ค่อนข้างไปได้ไกลแล้ว
     
สรุปเหรียญรางวัล (ทอง-เงิน-ทองแดง) อันดับ 1 กทม. 143-116-129, อันดับ 2 ชลบุรี 53-59-50, อันดับ 3 สุพรรณบุรี 47-33-46, อันดับ 4 นครราชสีมา 46-24-29, อันดับ 5 เชียงใหม่ 29-31-47, อันดับ 6 นครศรีธรรมราช 26-24-33, อันดับ 7 สมุทรปราการ 19-20-22, อันดับ 8 ศรีสะเกษ 19-12-29, อันดับ 9 ขอนแก่น 18-7-24, อันดับ 10 นนทบุรี 16-31-27 
     
ทั้งนี้ ทัพนักกีฬา "เมืองหลวง" กทม. สามารถครองเจ้าเหรียญทองได้เป็นสมัยที่ 31 จากผลงานกวาดไปทั้งสิ้น 143 ทอง, 116 เงิน, 129 ทองแดง นอกจากนี้ยังทำลายสถิติเหรียญทองมากที่สุด โดยครั้งที่มากที่สุดคือน่านเกมส์ เมื่อปีที่แล้ว กทม. เคยทำไว้ 125 ทอง.