ข่าวมาเร็วเคลมเร็ว! สั่งแบน "เปาอาคม" จบจบฤดูกาล - kachon.com

มาเร็วเคลมเร็ว! สั่งแบน "เปาอาคม" จบจบฤดูกาล
กีฬา

photodune-2043745-college-student-s

ควันหลงศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 นัดที่ 11 ของฤดูกาล เมื่อวันที่ 18 พ.ค.62 เกมที่แพท สเตเดี้ยม ซึ่ง "สิงห์เจ้าท่า การท่าเรือ เอฟซี เสมอกับ "แข้งเทพ" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-1 ซึ่งช่วงท้ายเกมนาทีที่ 81 เกิดเรื่องดราม่าขึ้นเมื่อ เซร์คิโอ ซัวเรซ กองหน้าท่าเรือ ถูก วิศรุต อิ่มอุระ ของแบงค็อก เตะล้มในเขตโทษ แต่กรรมการ อาคม เจริญสุข เป่าให้เป็นฟรีคิกแทน ทำให้ ซัวเรซ ไม่พอใจขว้างบอลไปโดนหัว พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา จึงถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม และการท่าเรือ เหลือผู้เล่น 10 คน ก่อนที่ช่วงทดเวลา สรรวัชญ์ เดชมิตร กองกลางแข้งเทพ จะโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังไปด่ากรรมการนั้น

ล่าสุด พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงเรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมนัดนี้ว่า  ทางผู้บริหารสมาคมฯ ได้ติดตามชมเกมตลอดการแข่งขันและยังดูภาพเหตุการณ์ย้อนหลังด้วย พบว่า การทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของกติกาฟุตบอลที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะเหตุการณ์ทำฟาวล์ในเขตโทษในช่วงท้ายเกม ซึ่งผู้ตัดสินอยู่ในตำแหน่งที่เห็นเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน แต่ไม่มีการคาดโทษและให้เป็นลูกจุดโทษ ซึ่งมีผลต่อการได้ประตู และส่งผลต่อการแพ้ชนะในเกมการแข่งขันที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง ทำให้เกิดความเสียหายต่อสโมสรและสมาคมฯ

"สมาคมฯ มิได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาดังกล่าว จึงได้นำปัญหานี้หารือร่วมกับกรรมการประเมินผลการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสิน กรรมการพิจารณาวินัย มารยาทฯ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ พิจารณาเหตุการณ์ต่างๆ และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวเห็นว่าเป็นกรณีที่ผู้ตัดสินปฎิบัติหน้าที่ผิดพลาดอย่างรุนแรง โดยไม่มีเหตุอันจะอ้างได้ จึงให้งดการทำหน้าที่ผู้ตัดสินของกรรมการ อาคม เจริญสุข ไปตลอดจนสิ้นฤดูการแข่งขัน เว้นแต่จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ส่วนผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ราวุฒิ นาคฤทธิ์, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ภูเบศ เหล็กผา และผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 4 ต่อพงษ์ สมสิงห์ จะมีการพิจารณาอีกครั้ง" พล.ต.ท.อำนวย กล่าว

โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวต่อว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องการที่จะพัฒนากีฬาฟุตบอลไทยในทุกระดับ ซึ่งในการที่จะพัฒนากีฬาฟุตบอลนั้นผู้ตัดสินถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ทางสมาคมฯ จึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรในด้านนี้ทั้งการให้ความรู้ทางวิชาการ พลานามัย คุณธรรม ตลอดจนจัดให้มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตัดสินของผู้ตัดสิน จะเห็นได้จากการจัดให้มีโครงการอบรม สัมมนาต่างๆ นอกจากนี้ เรายังมีความพยายามในการนำเทคโนโลยี VAR เข้ามาช่วยในการตัดสิน เพื่อให้เกมฟุตบอลมีความบริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุญาตจากทางฟีฟ่า รวมถึงเอเอฟซี

"สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยุคนี้ ยืนยันว่าเรามีความมุ่งมั่นและเอาจริงเอาจังในการปราบปรามขบวนการล้มบอล มีการจับกุมผู้ที่อยู่ในขบวนการอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการพัฒนาผู้ตัดสินรุ่นใหม่ๆ ให้ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่เพื่อให้ทัดเทียมกับประเทศชั้นนำ และจะยังคงเดินหน้าพัฒนาวงการผู้ตัดสินต่อไป" โฆษกลูกหนังไทย กล่าวทิ้งท้าย.