สาวน่านผงาดแชมป์ปล้ำลูกหนำเลี๊ยบสมัยที่ 5
กีฬา
หลังเกม "ใบตอง" กล่าวว่า ก่อนแข่งตนเองรู้สึกตื่นเต้น เพราะเจอกับนักกีฬาเจ้าภาพทำให้ออกสตาร์ทไม่ดี ซึ่งก็ยังดีที่กลับมาตั้งตัวได้เร็วและเร่งสปีดแซงกลับมาเอาชนะได้ หลังจากนี้เหลือคิวแข่งอีก 1 รายการ ในประเภทอินไลน์สปีดสเก็ต 500 เมตรหญิง รุ่นอายุ 13-20 ปี โดยตั้งเป้าจะคว้าให้ได้ทั้งหมด 2 ทองเหมือนกับที่ทำได้ในน่านเกมส์เมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่ประเภทอื่น ๆ อินไลน์สปีดสเก็ต 100 เมตรชาย รุ่นอายุ 8-12 ปี ที่ 1 สุทธิกานต์ พั่วคูขาม (สุราษฎร์ธานี), อินไลน์สปีดสเก็ต 100 เมตรหญิง รุ่นอายุ 8-12 ปี ที่ 1 ปุญญภา ชุมพรพันธ์ (กระบี่), อินไลน์สปีดสเก็ต 100 เมตรชาย รุ่นอายุ 13-20 ปี ที่ 1 พุธวัฏ บุญปก (บุรีรัมย์), อินไลน์สปีดสเก็ต 1,000 เมตรหญิง รุ่นอายุ 8-12 ปี ที่ 1 อาร์นัสชา มุกดาสวัสดิ์ (เชียงใหม่), อินไลน์สปีดสเก็ต 1,000 เมตรหญิง รุ่นอายุ 13-20 ปี ที่ 1 ณัฏฐวรรณ ทรัพย์ประโคน (บุรีรัมย์)
รักบี้ฟุตบอล ประเภท 7 คน ชิง 2 ทอง โดย ทีมหญิง รอบชิงชนะเลิศ นักปล้ำลูกหนำเลี๊ยบจากน่าน เจ้าของแชมป์เก่า 4 สมัย พบกับ เพชรบุรี ปรากฎว่า สาวน่าน ยังคงรักษามาตรฐานได้ดีเหมือนเดิม เอาชนะไป 26-7 จุด คว้าทองไปครองเป็นสมัยที่ 5 ส่วน ทีมชาย รอบชิงชนะเลิศ "แชมป์เก่า" นครปฐม ชนะ เชียงใหม่ 29-7 จุด
วูซูยุทธลีลา ชิง 5 ทอง ปรากฏว่า ทัพชลบุรีจัดการกวาดไป 4 ทอง ได้จาก ยุทธลีลาดาบใต้ (หนานเตา) บุคคลหญิง ฐานิต ทับทิมเทศ 7.95 คะแนน, ยุทธลีลาดาบ (เตาซู่) บุคคลหญิง เบญญาภา สุตันตวงษ์ 8.11 คะแนน, ยุทธลีลาไท่จี๋ฉวน บุคคลหญิง ภัทรภร ภาดี 8.17 คะแนน และยุทธลีลากระบี่ (เจี้ยนซู่) บุคคลชาย อนุภัทร ภาดี 7.95 คะแนน ส่วน ยุทธลีลาฉางฉวน บุคคลชาย ที่ 1 ธีรเดช พลสุวรรณ (จันทุบรี) 8.08 คะแนน
ส่วนผลชิงทองกีฬาอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ยิงปืน ชิง 3 ทอง ปืนสั้นยิงเร็ว 25 เมตร 60 นัด บุคคลชาย ที่ 1 อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ (นครราชสีมา) ทำได้ 576 คะแนน, ปืนสั้นยิงเร็ว 25 เมตร 60 นัด ทีมชาย ที่ 1 ฉะเชิงเทรา 1,670 คะแนน, ปืนยาวท่านอน 50 เมตร 60 นัด บุคคลหญิง ที่ 1 วณิชชา มะโรหบุตร (กทม.) 612.2 คะแนน, เปตอง ชิง 2 ทอง ชายคู่ ที่ 1 ศรีสะเกษ, หญิงคู่ ที่ 1 สระบุรี, จักรยาน ชิง 2 ทอง ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ บุคคลชาย ที่ 1 ณรงค์วิท ปัญญา (ชลบุรี), บีเอ็มเอ็กซ์ บุคคลหญิง ที่ 1 ธนาภรณ์ โตทอง (สุพรรณบุรี)
กกท.เล็งหนุนงบเดินทางไกล
ขณะที่ "รองตูน" นายณัฐวุฒิ เรื่องเวส รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และวิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. เผยว่า ในการแข่งขันมหกรรมกีฬาในประเทศไม่ว่าจะเป็นกีฬาแห่งชาติ หรือเยาวชนแห่งชาติ จะมีนักกีฬาที่จำเป็นต้องเดินทางไกลบ้างหรือใกล้บ้าง ขึ้นอยู่กับจังหวัดที่ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งนั้น โดยบุรีรัมย์เกมส์หนนี้ จังหวัดที่เดินทางไกลคงหนีไม่พ้นทางภาคใต้ ซึ่งตามระเบียบ กกท. มีเงินอุดหนุนงบประมาณในการเดินทางอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นด้วยรถสาธารณะ เช่น รถไฟ รถบัส หรือบางจังหวัดใช้วิธีเหมารถมาเอง อย่างไรก็ตาม ในอนาคตมีโอกาสที่ กกท. จะมีการแก้ระเบียบข้อบังคับบางอย่างเพื่อเพิ่มเงินสนับสนุนการเดินทางมากขึ้น
ด้าน นายโฆษิต ขวัญศร ผอ.สำนักงาน กกท.จ.นราธิวาส เผยว่า นักกีฬาจากนราธิวาส เดินทางกว่า 1,500 กิโลเมตร เพื่อมาร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ใช้เวลาเดินทางมากกว่า 20 ชั่วโมง โดยใช้วิธีในการเดินทางต่างกันไป เพราะบางชนิดกีฬามาด้วยรถไฟ บางชนิดกีฬามาด้วยรถส่วนตัวของโค้ช ซึ่งชนิดกีฬาที่ต้องเดินทางไกลที่สุดคือกีฬาบริดจ์ ที่จะต้องเดินทางจาก อ.สุไหงโกลก ที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย แม้ว่าในการเดินทางครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ด้วยระยะทางที่ไกลก็มีโอกาสที่นักกีฬาจะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ส่งผลต่อผลงานในการแข่งขันได้
สปอร์ตฮีโร่โกยแล้ว105ทอง
"บิ๊กก้อง" ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า บุรีรัมย์เกมส์ชิงชัยมาแล้ว จากการสำรวจตั้งแต่เมื่อวันที่ 10-16 พ.ค.ที่ผ่านมา นักกีฬาโครงการพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ "สปอร์ต ฮีโร่" สามารถคว้าเหรียญรางวัลไปแล้ว 105 ทอง, 72 เงิน, 60 ทองแดง รวมทั้งสิ้น 237 เหรียญ โดยนักกีฬาในโครงการ "สปอร์ต ฮีโร่" ประจำปี 2562 มีอยู่ในโครงการทั้งสิ้น 563 คน จาก 16 ชนิดกีฬา ซึ่งเป็นนักกีฬาที่ร่วมสู้ศึกบุรีรัมย์เกมส์ครั้งนี้ จำนวน 436 คน จาก 15 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา กอล์ฟ จักรยาน เทควันโด เทนนิส เทเบิลเทนนิส แบดมินตัน มวยปล้ำ มวยสากลสมัครเล่น ยิงปืน วอลเลย์บอลชายหาด ยกน้ำหนัก ยูโด เรือพาย และว่ายน้ำ ยกเว้นกีฬายิงธนู ที่ไม่ได้จัดการแข่งขันในครั้งนี้
ทั้งนี้ บุรีรัมย์เกมส์เดินทางมาเกินครึ่งทางแล้ว ซึ่งจะมีพิธีปิดวันที่ 20 พ.ค.นี้ โดยทัพนักกีฬา "เมืองหลวง" กทม. เจ้าของแชมป์เหรียญทอง 30 สมัย ช่วยกันกวาดเหรียญทองจ่อทะลุ 100 ทองแล้ว ซึ่งถ้าในกีฬาเยาวชนแห่งชาติหนนี้ กทม.ครองบัลลังก์เจ้าเหรียญทองได้อีก จะเป็นแชมป์ครองเหรียญรางวัลรวมมากสุดสมัยที่ 31 ต่อไป
สรุปเหรียญรางวัล (ทอง-เงิน-ทองแดง) อันดับ 1 กทม. 95-83-79, อันดับ 2 ชลบุรี 40-43-35, อันดับ 3 สุพรรณบุรี 39-26-37, อันดับ 4 นครราชสีมา 33-17-13, อันดับ 5 นครศรีธรรมราช 23-20-26, อันดับ 6 เชียงใหม่ 18-18-28, อันดับ 7 ศรีสะเกษ 14-9-19, อันดับ 8 ขอนแก่น 14-3-20, อันดับ 9 นครปฐม 13-13-18, อันดับ 10 อุบลราชธานี 11-9-6.