"ปัทมา" ล็อกเป้านำแบดไทยเข้า8ทีม "สุธีรมานคัพ"
กีฬา
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ถนนวิทยุ-สารสิน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมฯ เป็นประธานแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมของทีมชาติไทย สู้ศึกแบดมินตันทีมผสมชิงแชมป์โลก "สุธีรมาน คัพ 2019" ที่เมืองหนานหนิง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 19-26 พ.ค.นี้ โดย ทีมชาติไทย เป็นทีมวางอันดับ 7 อยู่ร่วมกลุ่มกับ เต็ง 1 ญี่ปุ่น ทีมวางอันดับ 1 และรัสเซีย ทีมวางอันดับ 12 ของรายการ
คุณหญิงปัทมา กล่าวกับนักกีฬาว่า การฝึกซ้อมร่วมกันของทีมสุธีรมานคัพ แม้แบดมินตันเป็นกีฬาประเภทบุคคล แต่การแข่งขันประเภททีม ทุกคนต้องมีใจเดียวกัน เพื่อทำในสิ่งเดียวกัน พวกเราทุกคนต้องนึกถึงคำว่าทีม ไม่นึกถึงตัวเอง ผู้ฝึกสอน นักกีฬาและทีมงาน คือหนึ่งหยดน้ำ แต่เมื่อรวมกันเป็นทีม ทีมเราคือมหาสมุทร สามัคคีคือพลัง เมื่อรวมเป็นทีมแล้วจะเป็นทีมที่มีหลายมือหลายสมอง แต่ต้องมีเพียงหนึ่งใจดวงเดียว จึงจะทำให้ทีมมีพลังบรรลุถึงสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดได้
คุณหญิงปัทมา กล่าวต่อว่า สมาคมฯ ได้เลือกนักแบดมินตันที่ดีและพร้อมที่สุดไปแข่งขัน โดยฝ่ายพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ร่วมกับทีมงานผู้ฝึกสอน ได้ประชุมพิจารณาอย่างละเอียด ในการคัดเลือกนักกีฬาทั้ง 16 คน เป็นชาย 8 คน และหญิง 8 คน ซึ่งมั่นใจว่าเป็นทีมที่ดีที่สุด นอกจากฟอร์มการเล่นในปัจจุบันเป็นที่น่าพอใจแล้ว ทีมชาติไทยชุดนี้ยังประกอบไปด้วยนักกีฬาระดับท็อป 10 ของโลกถึง 3 ประเภทคือ หญิงเดี่ยว, หญิงคู่ และคู่ผสม
"เบื้องต้น ทีมไทย ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ให้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นอันดับแรก โดยผลการจับฉลาก เราอยู่ร่วมสายกับ ทีมเต็ง 1 คือ ญี่ปุ่นและรัสเซีย แน่นอนว่าญี่ปุ่น เป็นทีมที่แข็งแกร่งทั้ง 5 ประเภท ทำให้มีโอกาสที่จะครองแชมป์กลุ่มมากที่สุด ส่วนทีมไทยต้องไปแย่งตั๋วผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย กับ รัสเซีย"
นายกแบดมินตันไทย กล่าวต่อว่า ในการจับฉลากรอบ 8 ทีมสุดท้าย หากไทยไม่ต้องพบกับ จีน หรือ ญี่ปุ่น การคว้าเหรียญรางวัลจะมีความเป็นไปได้สูง ถ้าผลของการจับสลากเป็นใจกับเรา ก็ค่อนข้างที่จะมั่นใจว่าเราจะสามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ และคว้าเหรียญรางวัลกลับมาได้ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้กับการแข่งขันกีฬา ทีมใดสามารถแบกรับความกดดันจากการเล่นเพื่อประเทศชาติได้ดีกว่าจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ โดย ทีมไทย จะประเดิมด้วยการพบกับ รัสเซีย ในวันที่ 21 พ.ค. และพบกับ ญี่ปุ่น วันที่ 22 พ.ค. จากนั้นค่อยไปลุ้นผลการจับฉลากประกบคู่ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายกันต่อไป
สำหรับทีมชาติไทยชุดนี้ ประกอบด้วย นักกีฬาชาย "กันต์" กันตภณ หวังเจริญ, "เพชร"โฆษิต เพชรประดับ, "โอ๊ต" สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์, "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์, "สกาย" กิตตินุพงษ์ เกตุเรน, "ติณณ์" ติณณ์ อิสริยเนตร, "ดีโก้" กิตติศักดิ์ นามเดช, "ต้นน้ำ" นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร
นักกีฬาหญิง ประกอบด้วย "เมย์" รัชนก อินทนนท์, "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์, "ครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์, "กิ๊ฟ" จงกลพรรณ กิติธรากุล, "วิว" รวินดา ประจงใจ, "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย, "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล, "เอ็มเอ็ม" สาวิตรี อมิตรพ่าย
ผู้ฝึกสอน คือ เร็กซี ไมนากี, อังกุส ดาวี ซานโตซา, เทศนา พันธ์วิศวาส, ภัททพล เงินศรีสุข, พ.ต.ต.กฤติน กฤตตานุกูลย์, นาวาอากาศตรีหญิง สราลีย์ ทุ่งทองคำ และทีมงานวิทยาศาสตร์การกีฬา อีก 3 คน ร่วมทีม มี คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เป็นผู้จัดการทีม.