ศรีสะเกษทำน้ำหนักเข้าพิกัดได้เแล้วยันเชียร์แล้วไม่ผิดหวัง-เอสยังโวจะชนะน็อก
กีฬา
ความเคลื่อนไหวศึกรีแมตช์หยุดโลก "ศรีสะเกษ-เอสตราดา" ซึ่ง"เจ้าแหลม"ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น จะขึ้นป้องกันแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115ปอนด์) สภามวยโลก (WBC) สมัยที่ 2 ไฟต์ที่ 4 เป็นไฟต์บังคับกับคู่ปรับเก่า และรองแชมป์โลกอันดับ 1 ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา นักชกเม็กซิกัน ในวันที่ 26 เม.ย. นี้ ตรงกับเช้าวันที่ 27 เม.ย.นี้ ตามเวลาของประเทศไทย ที่สังเวียน เดอะ ฟอรัม, อิงเกิลวูด, นครลอสแอนเจลิส,สหรัฐอเมริกา ช่อง 23 เวิร์คพอยท์ ยิงสดกลับไทย ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป หลังจากที่ “เจ้าแหลม” เคยเอาชนะคะแนน เอสตราดา อย่างดุเดือดบนสังเวียนแห่งนี้เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ปีที่ผ่านมา และยก 12 ได้รับการยกย่องจาก WBC ให้เป็นยกยอดเยี่ยมแห่งปี 2018 ของ WBC
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นในนครลอสแอนเจลิส ซึ่งตรงกับเช้ามืดวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามเวลาเมืองไทย ทาง เอ็ดดี เฮิร์น จากแมตช์รูม บ็อกซิ่ง ยูเอสเอ โปรโมเตอร์ศึกนี้ ซึ่งใช้ชื่อศึก “เดอะ รีแมตช์” ร่วมกับดาโซน ยักษ์ใหญ่การถ่ายทอดสดกีฬา ผู้จัดศึกนี้ ได้จัดการแถลงข่าวศึกนี้อย่างเป็นทางการ ที่ลานเอนกประสงค์กลางแจ้ง ข้างสระน้ำ โรงแรมเจดับบริว มาร์ริออตต์ ลอสแอนเจลิส ในนครลอสแอนเจลิส,สหรัฐอเมริกา โดยมีคู่มวยทั้งหมด 10 คู่ที่ร่วมชกในศึกนี้เข้าร่วมแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนในลอสแอนเจลิส นำโดย ศรีสะเกษ และ เอสตราดา ที่ชกเป็นคู่เอกของรายการ และคู่รอง แดเนียล โรมัน นักชกสหรัฐ แชมป์โลกรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวต (122 ปอนด์) สมาคมมวยโลก (WBA) ชกล้มแชมป์กับ ทีเจ โดเฮอร์นี นักชกออสเตรเลีย เชื้อสายไอร์แลนด์ แชมป์โลกรุ่นเดียวของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) โดยมี เจสซี วาร์กัส อดีตแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวต(147 ปอนด์) องค์กรมวยโลก (WBO) ผู้เคยปะทะกับ แมนนี ปาเกียว มาแล้ว ชกเป็นคู่ค้ำกับ ฮุมเบอร์โต โซโต นักชกจอมเก๋าจากเม็กซิโก
สำหรับบรรยากาศการแถลงข่าวกลางแจ้ง มีแดดจ้า แต่อากาศไม่ร้อน เพราะมีลมหนาวพัดผ่านตลอด มีสื่อมวลชนต่างประเทศมารอทำข่าวกันหนาแน่น พิธีกรแนะนำนักชกและให้นักชกแต่ละคู่ขึ้นกล่าวยืนยันความพร้อม รวมทั้งความมั่นใจ ซึ่ง “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) ของ WBC และเดอะริง (The Ring) พร้อมผู้ท้าชิง “เจ้าไก่เม็กซิกัน” ฮวน ฟรานซิสโก เอสตรดา อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต (112 ) ปอนด์ 2 สถาบันของ WBA และ WBO ขึ้นกล่าวเป็นคู่สุดท้าย ในฐานะคู่เอกของรายการ
โดยทางด้านผู้ท้าชิง เอสตราดา ขึ้นกล่าวว่า คุยโวเช่นเดิมว่า ไฟต์ที่แล้วตนมีความสมบูรณ์ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะมีอาการบาดเจ็บก่อนชก ทั้งที่หัวเข่า และบริเวณหลัง ทำให้มีเวลาฟิตซ้อมเตรียมตัวน้อย แต่ก็ยังสู้และแพ้คะแนน ศรีสะเกษ แบบสูสีดุเดือด ชนิดที่ตนเองยังคาใจอยู่ว่าน่าชนะด้วยซ้ำ แต่ไฟต์นี้ฟิตซ้อมมาดีที่สุดในชีวิต สมบูรณ์แข็งแกร่งเกินร้อย มั่นใจว่าจะล้างแค้นเอาชนะ ศรีสะเกษ ได้สำเร็จ และถึงชนะน็อกด้วย ขณะที่ ศรีสะเกษ ขึ้นกล่าวเรียบ ๆ ว่า ยินดีที่ได้มาชกในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งที่ 4 ขอให้แฟนมวยชาวไทยในสหรัฐอเมริกามาช่วยเชียร์ และแฟนมวยที่ประเทศไทย ส่งกำลังใจเชียร์กันเยอะ ๆ ตนจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน และขอขอบคุณ ดาโซน กับแมตช์รูมบ็อกซิ่ง ยูเอสเอ ที่ทำให้ตนได้มาชกสร้างชื่อที่สหรัฐอเมริกาอีกครั้ง รวมทั้งผู้สนับสนุนทั้งเอ็ม-150 และนครหลวงโปรโมชั่น
จากนั้นทั้งคู่ได้ถ่ายรูปโพสต์ท่าประกบคู่เผชิญหน้ากันให้สื่อได้ถ่ายรูปทำข่าว มีการจ้องหน้ากันแบบตาต่อตา ก่อนจะจับมือแยกย้ายกัน โดยทาง ศรีสะเกษ ยังมีสื่อต่างประเทศหลายสำนักตามรุมสัมภาษณ์ และมีแฟนมวยตามมาขอลายเซ็นกันคึกคัก ก่อนจะขึ้นรถกลับที่พัก ซึ่งใช้เวลาเดินทางไปกลับร่วม 1 ชั่วโมง ศรีสะเกษ ได้ขึ้นไปพักผ่อน ก่อนจะตื่นขึ้นมาชั่งทดสอบน้ำหนักในตอนค่ำ ด้วยตาชั่งแบบเดียวกับตาชั่งจริงที่แมตช์รูมฯ นำมาให้ ปรากฏว่าชั่งได้พอดี 115 ปอนด์ เท่าพิกัดแล้ว ทำให้ทีมงานพอใจมาก และ ศรีสะเกษ ยังคงทานอาหารมื้อเย็นได้ โดย “เสี่ยฮุย” ให้ทานข้ามต้มหมูสับเป็นอาหารมื้อเย็น ไม่ต้องอดอาหารแต่อย่างใด และมั่นใจว่าวันชั่งจริงก่อนชก 1 วัน ศรีสะเกษ จะทำน้ำหนักได้พอดีพิกัด เหยียบตาชั่งครั้งเดียวผ่านแน่นอน
นอกจากนั้นในตอนค่ำ ซูกาเรย์ เลียวนาร์ด อดีตนักชกซูเปอร์สตาร์ดังของโลกชาวสหรัฐ ผู้เคยครองแชมป์โลกมาถึง 5 รุ่น และขณะนี้เบนเข็มมาเป็ยคอมเมนเตเตอร์กีฬา ผู้บรรยายกีฬามวยให้ดาโซน และทำหน้าที่ในศึกนี้ ได้ขนทีมงานรวม 11 คน บุกสัมภาษณ์ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ ถึงห้องพักที่โรงแรมเรเนสซอวงศ์ แอลเอ แอร์พอร์ต โฮเต็ล โดยมี วอลเตอร์ สระน้อย นักชกไทยในสหรัฐอเมริกา เป็นล่ามแปลให้ ซึ่ง เลียวนาร์ด ได้สอบถามประวัติของ ศรีสะเกษ ตั้งแต่สมัยต่อยมวยไทย และตอนเริ่มชกมวยสากลใหม่ ๆ ที่ไปชกแพ้ที่ญี่ปุ่น เพราะยังไม่เป็นเชิงมวยสากล ซึ่ง ศรีสะเกษ ก็บอกว่าตอนนั้นเพียงชกเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ ไม่คิดว่าจะเติบโตขึ้นมาเป็นแชมป์โลกในจุดนี้ได้ และ เลียวนาร์ด ได้ถามถึงการเจอกับ เอสตราดา ภาค 2 ว่าหนักใจใหม เอสตราดา เป็นมวยอย่างไร ซึ่ง ศรีสะเกษ บอกว่า เอสตราดา เป็นมวยที่เก่ง แข็งแกร่ง เหนียวแน่น รวดเร็ว แต่ตนก็ไม่หวั่น และไม่หนักใจ เพราะฟิตซ้อมเตรียมตัวมาดี คิดว่าเกมการชกออกมาสนุกแน่ มั่นใจจะย้ำแค้นเอาชนะ เอสตราดา ได้
ขณะเดียวกัน “เสี่ยฮุย” ได้เปิดเผยถึงการที่ เอสตราดา กลับมาเบ่งกล้ามในห้องพัก โพสต์โชว์ลงในเพจ และเฟสบุ๊ค ว่า ยอมรับว่า เอสตราดา กล้ามสวย แต่การชกมวยไม่ใช่การประกวดชายงาม นักมวยกล้ามสวยไม่จำเป็นต้องต่อยสวย ต่อยเก่ง ตนเคยเห็นนักมวยที่ไม่มีกล้าม ซ้อมหนักอย่างไรก็กล้ามไม่ขึ้นมาแล้ว 3 คน แต่บนเวทีเก่งกาจมาก ได้แก่อดีตยอดมวยไทย และยอดมวยสากลของไทยอย่าง พุฒิ ล้อเหล็ก ตามมาด้วยอดีตแชมป์โลก เทพฤทธิ์ ก่อกียรติยิม จนมาถึง “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ จึงมั่นใจว่าเรื่องกล้ามสวยไม่ใช่ประเด็นน่ากลัว และที่สังเกตเห็นชัดในโพสต์คือ เอสตราดา จงใจทาน้ำมันช่วยเพื่อให้เห็นกล้ามชัด ตั้งใจโพสต์ขู่ทำสงครามจิตวิทยา ซึ่งทางตนและ ศรีสะเกษ ไม่ได้หวั่นแต่อย่างใด ขำด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ทีมข่าวเดอะริง แม็กกาซีน และเดอะริง ทีวี ที่ติดตามทำข่าวศึกนี้มาถึงลอสแอนเจลิส ได้ทำการสัมภาษณ์บุคคลวงการมวยดัง ทั้งนักมวยดัง,เทรนเนอร์ และผู้จัดการนักมวย ปรากฎว่า มีคนฟันธงให้ เอสตราดา ชนะ 10 คน และให้ ศรีสะเกษ ชนะแค่ 3 คน โดย คาลิด ยาไฟ แชมป์โลกรุ่น 115 ปอนด์ของ WBA จากอังกฤษ ชี้ว่า เอสตราดา จะชนะคะแนนในศึกนี้ และเขาต้องการท้าชกล้มแชมป์กับผู้ชนะระหว่าง ศรีสะเกษ และ เอสตราดา