"กำปั้นชาย" สูญพันธุ์ "ส.มวย" ไม่ซีเรียสมุ่งคว้าทองโอลิมปิก
กีฬา
การแข่งขันมวยสากล ชาย-หญิง ชิงแชมป์เอเชีย 2019 ที่อินดอร์สเดี้ยม กกท. หัวหมาก เมื่อวันที่ 23 เม.ย. เป็นการชกในรอบก่อนรองชนะเลิศ รุ่น 60 กก.ชาย รุตชการณ์ จันทร์ตรง หรือเจ้าของฉายามวยไทย " เรือหลวง นาวีอันดามัน" แพ้คะแนน ชิวา ธาปา จากอินเดีย 0-5 เสียง ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ส่งผลให้นักมวยชายของไทย ตกรอบหมดแล้ว ไม่มีเหรียญติดมือแม้แต่เหรียญเดียว ขณะที่ รุ่น 54 กก.หญิง จิราภัค อินคำ แพ้คะแนน เหวิ่น ฮวง จากไต้หวัน 1-4 เสียง ตกรอบเช่นกัน
หลังการชก รุตชการณ์ วัย 23 ปี กล่าวว่า ทำดีที่สุดแล้ว จะนำข้อผิดพลาดไปปรับปรุงแก้ไขในการชกรายการอื่นๆ ต่อไป ส่วนอนาคตจากนี้ขึ้นอยู่กับโค้ชว่าจะให้ตนทำอย่างไรต่อไป
ทางด้าน ฮวน ฟอนตาเนียล หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวคิวบา กล่าวว่า รุตชกาญจน์ แพ้จริงๆ เพราะหมดแรง ทำให้ชกไม่ได้ตามแผน มาถึงจุดนี้มวยชาย ตกรอบหมดไม่มีเหรียญติดมือ แต่ตนไม่ซีเรียสเพราะเพิ่งรวมตัวฝึกซ้อมกัน เรามาถูกทางแล้ว หลายคนมีพัฒนาการที่ดี ต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อโอลิมปิกเกมส์ 2020 ในปีหน้า ดูตัวอย่าง วิจารณ์ พลฤทธิ์ หรือ สมรักษ์ คำสิงห์ ไม่เคยได้แชมป์โลกหรือแชมป์เอเชียเลย แต่พวกเขาพัฒนาและนำข้อผิดพลาดไปแก้ไขจนได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ กลับมา ซึ่งเราต้องทำให้ได้แบบนั้นอีกครั้ง
ขณะที่ "บิ๊กสมชาย" นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬามวยสากลฯ กล่าวว่า อยากให้การตัดสินของกรรมการเป็นกลางมากกว่านี้ จะเห็นที่ผ่านมา นักชกไทย แพ้ 2-3 คะแนน หลายคู่ ทั้งที่บางคู่ นักชกไทย ชกดีกว่าสมควรชนะ ส่วนตัวได้ให้กำลังใจเด็กว่าอย่าท้อ สมาคมฯ จะพยายามส่งนักมวยไปแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ให้มากขึ้น เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ โดยนักมวยชุดชิงแชมป์เอเชียชุดนี้ สมาคมฯ เปิดโอกาสให้นักชกดาวรุ่งหลายคนมาต่อยเพื่อให้ได้ประสบการณ์ตรง ตนยากให้นักชกและผู้ฝึกสอนนำจุดบกพร่องไปปรับปรุงแก้ไข เพราะเรามีเป้าหมายใหญ่ในกีฬาซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ ปลายปีนี้ รวมทั้งกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น ในปีหน้า