ข่าวแข้งดรีมทีม 'น้าชู'สู่เวทีการเมือง...'ครั้งหนึ่ง และแค่หนึ่งครั้งในชีวิต' - kachon.com

แข้งดรีมทีม 'น้าชู'สู่เวทีการเมือง...'ครั้งหนึ่ง และแค่หนึ่งครั้งในชีวิต'
กีฬา

photodune-2043745-college-student-s
"น้าชู" อดีตนักเตะทีมชาติไทย ที่โด่งดังจากชุดดรีมทีม ร่วมรุ่น "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ตะวัน(ธชตวัน) ศรีปาน ฯลฯ

หลังแขวนสตั๊ด เขายังคลุกคลีในวงการลูกหนัง ปัจจุบันรับหน้าที่โค้ช มาแชร์ ชัยภูมิ ทีมในไทยลีก 4 โซนตะวันออกเฉียงเหนือ

การเลือกตั้งที่ผ่านไป น้าชู ลงสมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ชัยภูมิ ในสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไท ที่มี นายชัชวาลล์ คงอุดม เป็นหัวหน้าพรรค

เนื่องด้วยมีภาระหน้าที่ในการคุมทีมลูกหนังอยู่ด้วย เมื่อเขาประกาศตัวลงสนามการเมือง จึงทำให้แฟนบอลแปลกใจไม่น้อย


อดีตแนวรับทีมชาติไทย เผยว่า ได้รับการชักชวนจาก นายอรุณ คงเจริญ ประธานมาแชร์ ผู้สนับสนุนหลักสโมสร ส่วนตัวแล้วก็สนใจการเมือง และเป็นคนพื้นที่ชัยภูมิโดยกำเนิด จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบ้านเกิด

ผลการเลือกตั้งออกมา ชูเกียรติ หนูสลุง เบียดสู้กับ "รุ่นใหญ่" ไม่ไหว ได้คะแนนเสียงหลักร้อย ส่วนผู้ที่ได้รับเลือกตั้งในเขตนี้ โกยไปกว่า 3 หมื่นคะแนน

"สู้เขาไม่ได้ เขตนี้มีผู้ลงสมัครเยอะ เกือบ 40 พรรค คะแนนถ้าไม่ตกกับพรรคใหญ่ ก็เลยเฉลี่ยๆ กันไป"

แม้จะได้ไม่มาก แต่ กุนซือมาแชร์ชัยภูมิ ก็ขอบคุณกับทุกคะแนนเสียยงที่ลงให้

"ต้องขอบคุณจริงๆ ส่วนใหญ่ที่มาลงให้มาจากแฟนคลับ แฟนฟุตบอล เขารู้ว่าเราลงสมัครสส. ก็มาช่วย คะแนนนอกพื้นที่มาเยอะด้วย ราวๆ 180 คะแนน ชาวชัยภูมิไปทำงานต่างจังหวัด ต่างประเทศ ลงให้เรา"

ผลคะแนนของ ชูเกียรติ ถ้าเปรียบเป็นเกมกีฬา ถือว่าเป็นความพ่ายแพ้แบบ "ขาดลอย" ก็ไม่ผิดนัก


"เป็นสนามที่เราไม่ถนัด ไม่เคย ไม่มีประสบการณ์"

"จริงๆ ผมคิดอยู่แล้วว่า คงยากที่จะเบียดกับเจ้าของพื้นที่ หรือพรรคใหญ่ๆ อย่างการหาเสียง อภิปรายอะไรนี่ ผมไม่ถนัดอยู่แล้ว"
น้าชู กล่าวอย่างอารมณ์ดี

อดีตแนวรับดรีมทีม กล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้ว เขาจะหาเสียงผ่านโลกโซเชียล โดยเฉพาะทางเฟซบุ๊คของตัวเอง

"อีกขาหนึ่ง เรามีหน้าที่ในการทำทีมฟุตบอลด้วย เมื่อมีเวลาก็ลงพื้นที่บ้าง แต่ยอมรับว่าประเภทเดินหาเสียง ขอคะแนนอะไรนี่ ทำไม่เยอะ"

"ใช้เฟซบุ๊คเป็นหลัก อธิบายจุดประสบค์ของเรา ให้ชาวบ้านได้รู้ ว่าอยากมาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา"

การเรียกกระแสมวลชนมาสนับสนุน ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง บางครั้งต้องใช้บารมีเก่าๆ ที่ชาวบ้านรู้จัก คุ้นเคยมาก่อน

"บางอย่างเราก็งงๆ อย่างป้ายหาเสียงนี่ กกต.เขากำหนดมาว่าต้องกี่ป้ายๆ ผมใช้งบประมาณพรรค ทำไปตามที่กติกา ก็ยังดูว่าไม่ค่อยทั่ว"

"แต่เอ๊ะ พอดูพรรคอื่น ทำไมรู้สึกเห็นถี่ๆ กว่า หรือเราไปตรงบริเวณที่มีป้ายเยอะเองก็ไม่รู้"
น้าชูกล่าวไป หัวเราะอ่อนๆ ไป

"บางคนบอกให้เราเข้าหา อบต. ให้เขาแนะนำว่าต้องทำอย่างไร แต่ไม่ได้ไปนะ เราใช้วิธีเรานี้แหละ"


กุนซือมาแชร์ ชัยภูมิ ยอมรับว่า ด้วยฐานเสียงของเขา ที่พอรู้จักมักคุ้น นอกจากแฟนบอลแล้ว ก็ครอบคลุมแค่พื้นที่ 2 ตำบล ผิดกับ "รุ่นใหญ่" ที่มีฐานเสียงอยู่ถ้วนทั่วทั้งเขต

"ยอมรับว่าไม่ได้ลุยแบบเต็มที่ และด้วยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเรื่องลงพื้นที่, ประสบการณ์, กระดูกไม่แข็ง ทำให้ได้คะแนนมาเท่านี้"

ครั้งแรกจากสนามฟุตบอล สู่สนามการเมือง บทบาทที่แตกต่างกันไป เขายังคิดถึงการต่อสู้ครั้งใหม่หรือไม่

"ก่อนจะมาตัดสินใจสมัคร ผมก็ติดตามการเมืองนะ เมื่อผู้ใหญ่ชักชวน เราคิดว่า เอ้า ลองดูสักตั้ง"

"แต่ยอมรับเลยว่า เมื่อกระโดดลงมาลุยสนามจริงๆ เราไม่ชอบกับบทบาทแบบนี้ ทำให้ไม่รู้สึกไม่ติดใจอะไรเลย ก็คงไม่เอาแล้ว แค่ครั้งเดียวพอ ถือว่าเป็นประสบการณ์ในชีวิต ขอไปเน้นงานโค้ชให้มาแชร์ ชัยภูมิ ทีมของ จ.ชัยภูมิดีกว่า"


พูดถึง มาแชร์ ชัยภูมิ ผลงานในไทยลีก 4 โซนอีสาน ตอนนี้เกาะอยู่กลางตาราง ถือว่าไม่ดี แต่ก็ไม่แย่

โค้ชชู ยอมรับว่า ปีนี้ต้องพยายามประคองทีมไปก่อน แม้จะไม่ถึงกับหัวตาราง แต่ต้องไม่แย่

"ฟุตบอลอาชีพ เรื่องทุนเป็นสิ่งสำคัญ มาแชร์ ชัยภูมิ ไม่ใช่ทีมเงินถุงเงินถังนัก การบริหารจัดการ ต้องมองถึงระยะยาว ถ้าโยนตูมลงไปทีเดียว แล้วไปไม่ถึงกับที่คาด จะเกิดผลเสีย"

"ยังไงผมต้องเน้นให้ทีมอยู่รอดให้ได้ก่อน ประคับประคองกันไป ผมจะทำให้ทีม มาแชร์ ชัยภูมิ อยู่คู่กับชาวชัยภูมิ ให้ได้ชม ได้เชียร์กันไปให้นานที่สุด"

ตอนนี้ น้าชู มาเน้นที่ทำทีมฟุตบอลเป็นหลัก ธุรกิจส่วนตัว ก็มีร้านเครื่องกีฬา "ชูเกียรติสปอร์ต" ที่ ต.ในเมือง จ.ชัยภูมิ

"มีธุรกิจเล็กๆ ขายเครื่องกีฬาเล็กๆ น้อยๆ ก็พออยู่ได้ ทุกวันนี้ทำงานฟุตบอล ทำธุรกิจเกี่ยวกับกีฬา ก็ถือว่ายังมีความสุขดีครับ" น้าชู ทิ้งท้าย

จากคนกีฬา คนฟุตบอล ลองขยับไปสู่การเมือง นับเป็นประสบการณ์แปลกๆ ในชีวิตของ ชูเกียรติ หนูสลุง

คนเราความถนัดไม่เหมือนกัน แม้จะไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนจากบทบาทการเมือง แต่บทบาทโค้ชฟุตบอลทีมจังหวัด หรือแม้แต่การรับใช้ชาติในฐานะนักฟุตบอล นั่นก็ถือว่าสร้างประโยชน์ได้อยู่แล้ว.


*** วุฒินล บุญวานิช ***