"เจ้าสด" ช้ำโดนปล้นชัยชนะ "สมชาย" โวยตัดสินไม่ไม่เป็นธรรม
กีฬา
การแข่งขันมวยสากล ชาย-หญิง ชิงแชมป์เอเชีย 2019 ที่อินดอร์สเดี้ยม กกท. หัวหมาก เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นการชกในรอบก่อนรองชนะเลิศ หรือ รอบ 8 คนสุดท้าย โดยไฮไลท์ของนักชกไทย อยู่ที่รุ่น 56 กก.ชาย "เจ้าสด" ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักชกตัวความหวังของไทย เจ้าของเหรียญทอง ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2015 พบกับ มิราซิซเบ็ค เมียร์ซาฮาลิลอฟ ดีกรีเหรียญทอง ศึกเอเชี่ยนเกมส์ 2018 จากอุซเบกิสถาน
ปรากฎว่า ทั้งคู่แลกหมัดกันอย่างดุเดือด โดยช่วงยก 2 ฉัตร์ชัยเดชา มีแผลแตกที่จมูก ทำให้แพทย์ขึ้นมาดูถึง 2 ครั้ง แต่อนุญาตให้ชกต่อ ช่วงยก 3 นักชกไทย กังวลแผลที่ดั้งจมูกแต่ก็เป็นฝ่ายเดินหน้าออกอาวุธและทำคะแนนได้จะแจ้งกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อครบ 3 ยก กรรมการชูมือให้ เมียร์ซาฮาลิลอฟ ชนะคะแนน 3-2 เสียง ทำเอาสตาฟฟ์โค้ชของไทย เกิดความไม่พอใจ เช่นเดียวกับคนดูและนักกีฬาหลายชาติ ที่เข้ามาชมในสนามต่างรู้สึกว่าการตัดสินครั้งนี้ไม่เป็นธรรม
หลังการชก ฉัตร์ชัยเดชา กล่าวว่า รู้สึกเสียกำลังใจอย่างมากที่ต้องมาเจอกับการตัดสินที่ไม่เป็นธรรม ส่วนตัวมองว่าตัวเองน่าจะชนะ อย่างไรก็ตาม ตนได้พยายามทำดีที่สุดแล้วและต้องขอโทษแฟนมวยชาวไทยด้วยที่เอาเหรียญมาไม่ได้
ขณะที่ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การตัดสินค้านสายตา หลายคู่ ไม่เฉพาะของไทย หากต่อยกับอุซเบกิสถานหรือคาซัคสถาน มักจะตัดสินเอื้อให้กับชาติเหล่านั้น หลายชาติไม่แฮปปี้กับการตัดสินของกรรมการชุดนี้ คาดว่าจะมีการสังคยานาหลังจากเสร็จสิ้นศึกมวยสากลชิงแชมป์เอเชีย และหากยังตัดสินโดยเล่นพรรคเล่นพวกแบบนี้ เชื่อว่าคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) จะเข้ามาจัดแทนไอบ้า ในการคัดเลือกไปกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 เหมือนอย่างในกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ที่อาร์เจนตินา แน่นอน
ขณะที่ รุ่น 57 กก. หญิง นิลาวัลย์ เตชะสืบ พบกับ เซนะ อิริเอะ จากญี่ปุ่น ซึ่ง นิลาวัลย์ อาศัยการออกหมัดที่เข้าเป้าแม่นยำกว่าเอาชนะคะแนนไปขาดลอย 5-0 เสียง ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ได้สำเร็จ พร้อมกับตุนเหรียญทองแดง เอาไว้ในมืออีกด้วย โดยหลังการชก นิลาวัลย์ นักชกสาวหล่อจากลำปาง กล่าวว่า แม้จะเป็นการชกรายการนานาชาติ ครั้งที่ 2 ของตนเองแต่ก็จะพยายามคว้าเหรียญทองให้ได้