ข่าว'ปรีดาภรณ์' วิ่งข้ามอุปสรรค สู้โรคร้าย-ล่า100มาราธอน - kachon.com

ฟูลมาราธอน ระยะ 42 กม. ที่คนปกติ ยังเป็นเรื่องยากจะพิชิตสักครั้ง

วันนี้เรามีเรื่องน่าสนใจของเธอ "พี่แทน" น.ส.ปรีดาภรณ์ วิริยะวรเวช หญิงหัวใจแกร่งวัย 53 ปี

ย้อนไปปีน้ำท่วมใหญ่ เธอถูกตรวจพบมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 แน่นอนชีวิตเปลี่ยนทันที ต้องเข้ารับการผ่าตัด และรักษาด้วยวิธีคีโมบำบัด ต้องฉีดยา 4 ครั้ง

ผลกระทบร่างกาย ทั้งเวียนศีรษะ ตาลอย ทานอาหารไม่ได้ อาเจียร ผมร่วง ร่างกายอ่อนแอ

แต่ด้วยกำลังใจเต็มเปี่ยม เธอกัดฟันต่อสู้โรคร้ายจนพ้นช่วงวิกฤติ แต่รู้สึกว่าร่างกายผิดปกติไป

"ตอนแรกไม่ได้วิ่งตามถนน แต่ออกกำลังกายตลอดด้วยการเข้าฟิตเนสช่วงเช้า จากนั้นช่วงเย็นจะว่ายน้ำราว 1 ชั่วโมงสบายๆ"

ปรีดาภรณ์ สังเกตว่า ตัวเองออกกำลังกายตามปกติ แต่ทำไม อ้วนเอาๆ หรือว่ามีผลจากการรักษาโรค จึงตัดสินใจเปลี่ยนวิธีออกกำลังก่าย จากในห้องฟิตเนส ก้าวสู่เอาท์ดอร์ จ๊อกกิ้งรอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน หรือ "วังสวนจิตร"

มาดกระฉับกระเฉง

"ตอนเริ่มนี่เหนื่อยแทบขาดใจ มันต่างจากการออกกำลังในฟิตเนสมาก วังสวนจิตร 1 รอบ ประมาณ 3.40 กม. วิ่งไม่ครบรอบ ค่อยๆ เชื่อไหม ใช้เวลา 4 เดือน กว่าจะครบรอบในแต่ละครั้ง"

ระหว่างกำลังเตาะแตะ มีเพื่อนชักชวนไปลงระยะมินิมาราธอน ที่หลังสวน จ.ชุมพร เธอตัดสินใจลงสนามด้วย เป็นรายการแรกที่เข้าร่วม ถูลู่ถูกังจนเข้าเส้นชัย

"เราวิ่งครบระยะมินิฯ ก็แทบตาย แต่เพื่อนบอกว่าชีวิตนักวิ่ง ต้องมีสักครั้งที่ลงฟูลมาราธอน 42 กม. ได้ยินระยะก็ โห จะวิ่งไปได้ยังไง"

ซ้อมที่วังสวนจิตร ราว 4 เดือน ร่างกายค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ เริ่มขยับไปลงระยะฮาล์ฟมาราธอน 21 กม. พี่แทน ก็เริ่มมองไปถึงระยะฟูลมาราธอน

เธอเปลี่ยนวิธีซ้อมตามที่เพื่อนแนะนำ จากที่เคยวิ่งรอบวังสวนจิตร 3 รอบ ก็เพิ่มระยะขึ้น สลับวันกัน จาก 4 เป็น 5, 6, 7 รอบ

เป็นช่วงที่ตั้งใจมาก ตื่นมาวิ่งตี 3 ก็ยังมี คนอื่นยังไม่นอน แต่เธอตื่นมาวิ่งแล้ว

วางเป้าหมายลงกรุงเทพมาราธอน ปลายปี 2557 ไว้เป็นรายการแรก แต่เปลี่ยนใจมาลง สุโขทัยมาราธอน ช่วงต้นเดือน พ.ย. เสียก่อน หวังจะชิมลาง

"ไปคนเดียว ไม่มีใครแนะนำอะไร วิ่งไปได้ 35 กม. เสร็จเลย ตะคริวขึ้น พี่ๆ นักวิ่งก็ใจดี ชื่อพี่จำรัส รู้ว่าเรามือใหม่ก็มาช่วยยืดเส้น คลายเส้นให้ แล้ววิ่งไปด้วยกัน พาจนเข้าเส้นชัย"

"ใช้เวลา 5 ชั่วโมง 40 นาที แต่ติดอันดับ 10 ของรุ่น ได้ถ้วยด้วย"

ประกบพี่ตูน

เริ่มต้นด้วยฟูลแรกด้วยถ้วยรางวัล ยิ่งสร้างแรงใจฮึกเหิม

2 สัปดาห์ต่อมา ลง "กรุงเทพมาราธอน" เวลากดลงเหลือ 5 ชั่วโมง 14 นาที

พี่แทน ลงระยะฟูลมาราธอนมาเรื่อยๆ เวลาดีสุดที่เคยทำได้คือ 4 ชั่วโมง 19 นาที ที่หนองคาย

จากที่วิ่งแค่ 3-4 กม. แทบแย่ เธอลงวิ่ง 42 กม. เป็นของขนมเก็บกินสบายๆ

"ลงฟูลแรก แข้งขายกไม่ไหว มันหมดแรง สงสัยว่าเป็นอย่างนี้ได้ไง ตอนนี้ร่างกายเข้าที่"

"ต้องวิ่งด้วยการรู้สภาพร่างกายตัวเอง พี่จะหยุดเดินทุกสถานีให้น้ำ เดินสัก 50 ก้าว สังเกตว่าถ้าเราทำแบบนี้ จะวิ่งได้สนุก"

ลุยรายการต่างๆ เรื่อยมา ตั้งแต่ปี 2557 ถึงตอนนี้ราวเกือบๆ 5 ปี ผ่านไปแล้ว 69 ฟูลมาราธอน

"ก่อนเริ่มวิ่ง เคยมีคนบอกว่า จะวิ่งให้ครบ 100 ฟูล ในชีวิตนี้ พี่เคยคิดว่า บ้าแล้ว ทำได้ไง"

"กลายเป็นว่าเราวิ่งมาเรื่อย จนใกล้เป้าหมายแล้ว"

"ตอนนี้อายุ 53 ปี แข็งแรงทั้งกายและใจ"

"ตั้งใจยังไงก่อนครบ 60 ปี จะต้องวิ่งครบ 100 ฟูลมาราธอนให้ได้"

จากผู้เผชิญปัญหาโรคร้าย ปรีดาภรณ์ วิริยะวรเวช ก้าวข้ามมาได้ โดยมีการวิ่งเป็นเพื่อนร่วมทาง แม้วันนี้จะยังต้องตรวจอาการอยู่บ้างก็ตาม

ฟังเหมือนง่าย แต่ยากเย็นกับการต่อสู้ สิ่งสำคัญคือไม่ยอมแพ้กับโชคชะตา

จุดประกายด้วยพลังใจมั่นคงนำทาง อุปสรรคขวางหน้าไม่ยากเกินจะวิ่งผ่านมันไป.

*** วุฒินล ***

(คอลัมน์ซิ่งวิ่งลุย นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน)