ข่าว'พาทิศ' แจง ยังไม่ล็อกสังเวียนแข่งยู23เอเชีย - kachon.com

'พาทิศ' แจง ยังไม่ล็อกสังเวียนแข่งยู23เอเชีย
กีฬา

photodune-2043745-college-student-s
ตามที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ในต้นปีหน้า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.พ. สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี) ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจ 7 สนาม คือ ราชมังคลากีฬาสถาน, สนามภายใน ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, เอสซีจี สเตเดี้ยม ของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, ลีโอ สเตเดี้ยม ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, สนามกีฬา สมโภช 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่, สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ จังหวัดนครราชสีมา และ สนามติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา ซึ่งในเดือน เม.ย. เอเอฟซี จะเดินทางมาประชุมร่วมกันอีกครั้ง

จากการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท. ) ครั้งที่ 3/2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 27 มี.ค. มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม ที่ประชุมให้ความเห็นชอบใช้เงินสำรองของ กกท. ปรับปรุงซ่อมแซม 3 สนาม เพื่อใช้จัดฟุตบอล 23 ปี เอเชีย คือ ราชมังคลากีฬาสถาน, สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี และสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ จ.นครราชสีมา ซึ่งสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ จะปรับเพื่อใช้จัดกีฬาคนพิการทางการเคลื่อนไหวชิงแชมป์โลก ปี 2020 ด้วย งบลงทุนวงเงิน 571,372,500 บาท

ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยด้วยว่า อีก 1 สนาม ที่พร้อมจะปรับปรุงเพื่อใช้แข่งขันคือ สนามติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา งบประมาณปรับปรุง ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดสรรค์มาส่วนหนึ่ง 

อย่างไรก็ตาม "เดอะโจ" นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการ และรองโฆษก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า แม้ 4 สนามดังกล่าว จะได้งบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมแล้ว แต่ยังไม่เป็นข้อสรุปว่าจะใช้ 4 สนามนี้ โดยต้องดูความพร้อมอีก 3 สนามว่า จะสามารถปรับปรุงแก้ไขได้หรือไม่ จากนั้นจะมาพิจารณาข้อดี ข้อเสีย ของทั้ง 7 สนาม ซึ่งสมาคมฯ จะเสนอชื่อ 4 สนาม ให้ เอเอฟซี ก่อนสิ้นเดือน เม.ย. จะมีแผนปรับปรุงว่าต้องแล้วเสร็จก่อน ธ.ค.ปีนี้ แล้วจะพิจารณาร่วมกัน และหากไปแข่ง 4 ภูมิภาค ก็อาจมีปัญหาเรื่องกระจายตั้งศูนย์ เอเอฟซี
.