ข่าวจาก 'องค์พระถล่ม' นำมาสู่กำเนิดงานวิ่งที่ขอนแก่น - kachon.com

จาก 'องค์พระถล่ม' นำมาสู่กำเนิดงานวิ่งที่ขอนแก่น
กีฬา

photodune-2043745-college-student-s
ข่าววูบในสนาม มีมาเรื่อยๆ ท่านทั้งหลายพึงจำไว้ "อย่าประมาท" เช็กสภาพร่างกายให้ดีก่อนออกกำลังกาย โรคประจำตัวมีอะไร รู้ๆกันอยู่ และประเภทนอนน้อย อย่าฝืน, ดื่มแอลกฮอล์เข้าไป อย่าซ่า ถ้าเล่นๆ แล้วเริ่มหน้ามืด วิงเวียน ยกมือ เดินออกทันที ห้ามดื้อแพ่ง เก็บชีวิตไว้เสียเหงื่อต่อในวันหน้าดีกว่า คอลัมน์ "ซิ่งวิ่งลุย" มาพบทุกวันพฤหัสบดี ส่งข่าวประชาสัมพันธ์มาได้ที่ [email protected] หรือแอดเฟซบุ๊ค Woody Me-hey จ้ะ

...
"หนองสองห้อง"พลิกวิกฤติ "องค์พระถล่ม"
รวมพลังจัดหาทุนสร้างใหม่

...

จากข่าวครึกโครมองค์พระประธานที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่ม ที่วัดเกาะสะอาด บ้านหนองสองห้อง ทางราชการ และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงเตรียมจัดงานวิ่งช่วยระดมทุนการก่อสร้าง

เรื่องนี้ อดิศักดิ์ วนาทรัพย์ดำรง ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ประจำขอนแก่น ไปสัมภาษณ์ นายจีรภัทร วรสิงห์ นายกเทศมนตรี ต.หนองสองห้อง ได้ความว่า หลังจากองค์พระใหญ่ที่พังถล่ม คณะกรรมการวัดและนายช่างผู้รับเหมา มาตกลงหารือ จ้างช่างชุดเดิมทำต่อ  ผลสรุปมีเพียงวัสดุก่อสร้างพังเสียหายไปเท่านั้น เหมือนเป็นอุบัติเหตุ ด้วยเหตุนี้เองฝ่ายกองช่างจะเข้าไปดูแลอย่างเคร่งครัดควบคุมการก่อสร้างใหม่ให้ถูกต้องแข็งแรง 

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคอลัมน์เรา.....


จีรภัทร วรสิงห์ นายกเทศมนตรี ต.หนองสองห้อง ประชุมทีมงาน

ใจเย็นจ๊ะ เรื่องมันเป็นเช่นนี้ นายกเล็กจีรภัทร บอกว่า ทางเทศบาลฯ คิดเร็ว ทำเร็ว เห็น วิกฤติ ถือโอกาส เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนเขต ทต.หนองสองห้อง จึงจัดงานเดินวิ่ง “หนองสองห้อง มินิมาราธอน 2019" รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว  ส่วนหนึ่งจะสมทบทุนกองทุนวัดฯ ก่อสร้างพระใหญ่ที่พังถล่มขึ้นมาใหม่ เนื่องจากแหล่งที่ตั้งวัดเป็นเกาะกลางน้ำ สะอาดสวยงาม


โบสถ์แบบโบราณ หลังหนึ่งหันหน้าทางทิศเหนือตามความเชื่อยุคเก่า

ที่แปลกไปจากวัดอื่นคือ มี 2 อุโบสถ สิมบก เป็นโบสถ์เก่าโบราณหันหน้าไปทางทิศเหนือตามความเชื่อยุคเก่า  ส่วนอุโบสถหลังใหม่ ก็หันไปทิศตะวันออก รวม 2 หลัง ส่วนบึงน้ำสาธารณะเพื่อการประปา  บนเนื้อที่ 5 ไร่ ได้เนรมิตรปรับปรุงเป็นสวนสุขภาพหนองหูลิง เป็นลานออกกำลังกาย

งานวิ่งจัดเช้าวันที่ 31 มีนาคมนี้ ที่สวนสุขภาพบึงหนองสองห้องติดกับวัดเกาะสะอาด ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร, ฟันรัน 4 ก.ม.  สนใจติดต่อ ที่  0-4349-1106, 0-4349-1602 ในเวลาราชการหรือมือถือ 08-9574-9947

.....

งาน "พญาคันคาก" คึกคัก
ชมแลนด์มาร์กขึ้นชื่อยโสธร


.....

ทีมข่าวภูธรขยันขันแข็ง ราชกิจ กรรณิกา เจ้าของพื้นที่ยโสธร รายงานเข้ามาเช่นกัน ถึงงานวิ่งการกุศล “พญาคันคาก มินิ–ฮาล์ฟมาราธอน 2019 ครั้งที่ 3" 

งานจัดไปเมื่อ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่สนามกีฬาจังหวัดยโสธร อ.เมือง  จ.ยโสธร นายนิกร  สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานปล่อยตัวนักวิ่ง มีคนรักสุขภาพเข้าร่วมประมาณ 2,500 คน ประเภทการวิ่งประกอบด้วย  ฟันรันระยะทาง 3.8 กิโลเมตร มินิมาราธอนระยะทาง 11.6 กิโลเมตร และ ฮาล์ฟมาราธอน แถมระยะให้อีก 2 กิโลเมตร รวมเป็น 23 กิโลเมตร



จัดหารายได้มอบกิจการกาชาดจังหวัดยโสธรเพื่อสาธารณะกุศล,เป็นเงินกองทุนทางด้านการกีฬาของจังหวัดยโสธร และส่งเสริม ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดยโสธร

"วิ่งพญาคันคาก" หลายคนอาจงงกับ "พญาคันคาก" ราชกิจ กรรณิกา คนข่าวเดลินิวส์ในพื้นที่ เล่าว่า พญาคันคาก ก็คือ  คางคกในตำนาน หนึ่งในชาติที่พระพุทธเจ้าถือกำเนิด เกี่ยวพันกับตำนานบั้งไฟขอฝน และพญาแถน ซึ่งล้วนเป็นสัญลักษณ์ของยโสธร

เส้นทางวิ่ง ผ่านแลนด์มาร์คของเมืองบั้งไฟ ทั้งลำน้ำทวน วิมานพญาแถน, อาคารพิพิธภัณฑ์พญานาค, อาคารพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก" และระยะฮาล์ฟ ได้ชมธาตุก่องข้าวน้อย ในตำนานก่องข้าวน้อยฆ่าแม่ด้วย

นักวิ่งชื่นชอบ ชื่นชม ฝ่ายจัดก็ชื่นใจ ปีต่อไป มีอีกแน่ และต้องใหญ่กว่าเดิมด้วย รอกันได้เลย

ส่วนงานที่ผ่านมา พี่ราชกิจ แว่บไปแชะภาพมาฝากแฟนๆ เดลินิวส์กัน แต่ไม่รู้เป็นไง มีแต่รูปสาวๆ สงสัยกล้องตั้งออโต้ "โหมดถ่ายภาพสาว" โดยเฉพาะรูปท้าย ฮิๆ

เอ้า ไปชมบรรยากาศกัน ก่อนย้ายไปเรื่องสุดท้ายจ้ะ.















.....

ขบวนปั่นผู้พิการสายตา
ชาวสองพี่น้องร่วมใจไม่ทิ้งกัน


.........

จากเรื่องของวิ่ง มาที่เรื่องปั่นกันบ้าง ครรชิต กระโห้แก้ว ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ประจำสุพรรณบุรี รายงานกิจกรรมโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2 เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ ศาลาการเปรียญ วัดไผ่โรงวัว ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง

ในงานมีนายวิศิษฐ์ อนันต์วรปัญญา นายอำเภอสองพี่น้อง, นายศุภโชค วณิชชาพลอย ปลัดฝ่ายความมั่นคง, นายธีระ โรจน์ประดิษฐ์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม, นายปิยพจน์ เกียรติชูสกุล กำนัน ต.บางเลน ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.สองพี่น้อง พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนทั่วไป ร่วมพิธีปล่อยขบวนนักปั่นผู้พิการทางสายตา และนักปั่นจิตอาสา





นายอำเภอวิศิษฐ์ เล่าที่มาที่ไปโครงการนี้ เพื่อระดมทุนสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม คณะนักปั่นจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้าย ปั่นระยะทางรวมกว่า 1,500 กิโลเมตร 14 วัน 15 จังหวัด ทั้งนี้เป็นตัวแทนชาวอำเภอสองพี่น้อง มอบเงินสมทบทุนให้กับ โครงการปั่นไม่ทิ้งกัน ปี 2 รวมเป็นจำนวนเงิน 87,143 บาท

ส่วนนายศุภโชค ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอสองพี่น้อง เปิดเผยว่า เป็นมิติใหม่ของการช่วยเหลือคนพิการ สนับสนุนคุณภาพชีวิตของผู้พิการให้ดีขึ้น จึงอยากให้พี่น้องประชาชน ให้การสนับสนุน เพื่อให้คนพิการได้ฝึกอาชีพ ช่วยเหลือตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น

*** วุฒินล ***