ข่าว'เอ.พี.ฮอนด้า' ประกาศแผนงาน พร้อมปั้นนักบิดสู่โมโตจีพี - kachon.com

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ถนนวิภาวิดีรังสิต มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วย ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด และ พ.ท.รุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ กกท. ร่วมกันแถลงข่าวนโยบายด้านมอเตอร์สปอร์ตประจำฤดูกาล 2019 นับเป็นการขยับตัวครั้งใหญ่เพื่อก้าวตามโร้ดแม็ปสร้างนักบิดสายเลือดใหม่ เข้าสู่การแข่งขัน "โมโตจีพี" ให้ได้ภายในปี 2025 ในโครงการ "เรซ ทู เดอะ ดรีม" เพิ่มระดับความเท่าเทียบเท่ามาตรฐานระดับโลกอย่าง HRC หรือ Honda Racing Corporations

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กล่าวว่า เอ.พี.ฮอนด้า ได้ส่งนักแข่งไทยไปลุยสังเวียนระดับเอเชียและระดับโลกมาอย่างยาวนาน ซึ่งได้ผลักดันสร้างนักแข่งไทยที่มีศักยภาพระดับโลก ล่าสุด โครงการสร้างนักแข่งไทยสู่สนามระดับโลก ได้ถูกกำหนดขั้นตอนตามเส้นทาง "เรซ ทู เดอะ ดรีม" ซึ่งปีนี้เข้าสู่ปีที่ 3 ความมุ่งหวังหลักของ เอ.พี.ฮอนด้า คือ เพื่อสร้างให้กีฬามอเตอร์สปอร์ตกลายเป็นนักกีฬายอดเยี่ยมทุกเพศทุกวัย เพื่อให้คนไทยได้เชียร์นักแข่งไทยในสนามระดับโลก



สำหรับแผนโครงการพัฒนาสู่มาตรฐานระดับโลก มี 5 เรื่องหลัก คือ 1 Racing Machine เอ.พี.ฮอนด้า นำเข้าโครงการขั้นต้นของโรดแม็ป ใช้รถแข่งระดับโลกในการฝึกซ้อม, 2 พัฒนาทักษะการขับขี่ให้แก่นักแข่ง ด้วยโครงการแลกเปลี่ยนนักแข่งขัน Rider Exchange Project, 3 พัฒนาศักยภาพความฟิตทางร่างกายของนักแข่ง ด้วยการออกแบบโปรแกรมฝึกอบรมใหม่ มาตรฐานระดับทีมแข่ง HRC โดยฝึกซ้อมต่อเนื่องสม่ำเสมอ, 4 พัฒนาทักษะช่างทีมแข่งตามมาตรฐาน HRCโดยการสนับสนุนจาก HRC Technical Master และ 5 เน้นสร้างประชากรนักแข่งหน้าใหม่ เพื่อค้นหาดาวรุ่งเข้าสู่วงการพัฒนาสู่มาตรฐานระดับโลกต่อไป

สำหรับปีนี้ เอ.พี.ฮอนด้า เตรียมส่ง "คิงคองก้อง" สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 วัย 20 ปี ดาวรุ่งอายุน้อยสุดของไทยในเวทีระดับโลก ลงแข่งขันศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รุ่นโมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ร่วมกับสังกัด "อิเดมิซึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย" ส่วนการเฟ้นหาดาวรุ่งตามโรดแม็ปที่วางไว้ ในปี 2019 เริ่มที่โครงการ "เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์" คัดเลือกเยาวชน อายุระหว่าง 9-14 ปี รวม 15 คน เข้าร่วมโปรแกรมพัฒนานักแข่งรถจักรยานยนต์มืออาชีพอย่างต่อเนื่องปีที่ 2 โดยผ่านรอบออดิชั่น เข้ามาเป็นนักแข่งรุ่นที่ 2 รวม 9 คน และรุ่นที่ 1 รวม 6 คน โดยจะแข่งขันแบบเก็บคะแนนกันทั้งสิ้น 10 สนาม



ขณะที่ โครงการ "ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ" ปีที่ 4 จะผสมกับเด็กที่มาจากโครงการ เอ.พี. อะเคเดมี ขยับเข้าร่วมโครงการได้มากถึง 5 คน ซึ่งเป็นการเข้ามาตามสิทธิ์ของแชมป์และรองแชมป์การแข่งขัน 3 คน เป็นเด็ก เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี ที่สมัครเข้าร่วมคัดเลือกหรืออดิชั่นตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 2 คน ที่เหลือเป็นเด็กเก่าของโครงการไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ในปีก่อน 5 และอีก 2 คน เป็นเด็กจากทีมแข่งอิสระ ที่เหลือจะเป็นนักแข่งนานาชาตที่ขอเข้าร่วม 7 คน รวมทั้งสิ้นในปีนี้มี 19 คน โดยจะแข่งขันแบบเก็บคะแนนทั้งสิ้น 7 สนาม

ส่วนระดับภูมิภาคเอเชีย จะส่งนักแข่งดาวรุ่ง3 คน คือ "ก๊อง" ธัชกร บัวศรี, "ฟิล์ม" ปิยวัฒน์ ประทุมยศ  และ "นิว" วริทธิ์ ทองนพคุณ ลงแข่งรายการ "อเดมิสึ ฮอนด้า เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2019" ขณะที่ "ก๊อง" กับ "ฟิล์ม" ยังได้เข้าร่วมรายการ "เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019" ภายใต้สังกัดทีมแข่ง "เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์" เป็นคู่หูคู่ใหม่ ร่วมกับยอดนักบิดสาวแกร่งขวัญใจคนไทย "มุกข์" มุกข์ลดา สารพืช ที่ลงแข่งขันในรุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. และ "นิว" กฤชพร แก้วสนธิ ลงข่งขันรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. คู่กับนักแข่งฝีมือดีอย่าง "แชมป์" ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ นอกจากนี้ เอ.พี.ฮอนด้า ได้ส่งทีมเข้าแข่งขันรายการชิงแชมป์ประเทศไทย FMSCT Thailand Supercross 2019 ในรุ่น MX2-A อีกด้วย



ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของนักบิดไทย ในโครงการ "เรซ ทูเดอะ ดรีม" และผลงานของ "คิงคองก้อง" สมเกียรติ จันทรา ในศึกโมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 ได้ทาง www.facebook.com/hondamotorclethailand/ พร้อมรับชมการแข่งขันผ่านทาง Fox Sports ในทุกสนามของการแข่งขัน