เด็กดอย 'ตีนเปล่า' ล่าฝันตามรอยรุ่นพี่
กีฬา
ไม่มีเงินซื้อรองเท้า แต่มีใจมุ่งมั่น
หวังสักวันติดทีมชาติ
"ฮีโร่", "ไอดอล" สร้างแรงบันดาลใจ แม้จะเพียงจุดเล็กๆ ก็อาจพัฒนาไปสู่ความยิ่งใหญ่
ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 30 อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ซุ้มผลิตนักกรีฑา ปั้นจากเด็กดอย เด็กภูเขา ได้ดิบได้ดี ติดธงทีมชาติ ทั้ง สุรชาติ แทสี, วิเชียร หมื่อโปกู, อรวรรณ ไกรสิงห์
น้องๆ เห็นพี่ทำได้ดี สร้างชื่อเสียงให้ชาติ อยากเดินตามรอยบ้าง เด็กประถมระดับ ป.4-5 ชูมือพรึ่บพรั่บ ขอเข้าแคมป์กรีฑา ที่ "ครูบั๊ม" พสิษฐ์ ฟ้าสาร ดูแล นับหัวกันแล้ว ตอนนี้มีนักวิ่งรุ่นเยาว์ร่วม 30 คน
จะด้วย ดีเอ็นเอของเด็กดอย หรือความตั้งใจ การซ้อม หนูๆ เหล่านี้ฝีเท้าไม่ธรรมดายกทีมไปลงรายการ "รังษีมินิมาราธอน" หอบถ้วยกลับโรงเรียนมา 3 ใบ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยความพร้อม เป็นหนึ่งในอุปสรรค หลานๆ นักวิ่ง ฐานะทางบ้านไม่อยู่ในระดับซื้อง่าย จ่ายคล่อง แน่นอนอุปกรณ์รองเท้าวิ่งดีๆ ไม่มีให้ใส่อย่างใครเขา คนที่พอจะมีรองเท้าผ้าใบ ก็ใส่ผ้าใบ คนที่ไม่มี ก็ "วิ่งตีนเปล่า"
แม้ตีนเปล่า แต่ก็มุ่งมั่นฝึกซ้อม
"เด็กหญิงคนหนึ่ง โทรมาหาผม บอกครูคะ หนูขอเบิกรองเท้าวิ่งได้ไหมคะ หนูใส่เบอร์ 36 ค่ะ" ครูบั๊ม เล่าทีมงานซิ่งวิ่งลุยฟัง
"ผมก็กลับไปหาๆ ที่คนบริจาคกันมา ปรากฏว่าไซซ์นี้ไม่มีแล้ว เลยบอกไปว่า รอก่อนนะ ครูจะหาให้"
ที่ว่าไปหารองเท้า ไม่ใช่ว่ามีทุนทรัพย์ มีโกดังเก็บรองเท้า ครูบ้านนอกคนนี้ เล่าว่า แม้มีผู้มีจิตศรัทธา ช่วยเหลือ แต่ไม่เพียงพอ เขาจะหาพวกรองเท้ามือ 2, มือ 3 หรืออาจล้นไป 4-5 ราคาสัก 200-300 บาท เก็บๆ ไว้ ค่อยๆ ซ่อม อัดกาว ให้พอใส่ได้ ขาดบ้าง แหว่งวิ่นบ้าง เรื่องธรรมดา อ้อ ความสวยงามไม่ต้องพูดถึง
ทว่าเมื่อจำนวนนักเรียนอยากวิ่งมากขึ้น ก็หาให้ไม่ทัน ตอนนี้เด็กๆ เกือบ 30 คน อาศัยตีนเปล่ทั้งซ้อม ทั้งแข่ง ล่าฝัน ก้อนหิน ก้อนกรวด เหยียบกระจุยกระจาย ยังดีไม่เจอไม้เสียบหมึกปักปึ้กเข้าให้ ไม่ใช่ว่าถนัด ไม่ใช่ว่าชอบ แต่เมื่อไม่มีรองเท้าให้ใส่ จะทำไงได้
อ่านถึงบรรทัดนี้ ท่านอาจกลับไปมองตัวเอง หาซื้อรองเท้าออกกำลังกายราคาหลายตังค์ คู่ละครึ่งหมื่นเรื่องปกติ แต่หลานๆ ชาวดอยขอแค่พอวิ่งได้เท่านั้น เป็นรองเท้าเก่า รองเท้าใช้แล้วก็ได้
แน่นอน ที่เขียนๆ มา เพื่อขอบริจาคนี่แหละ ชาวเราๆ ใครพอมีรองเท้าเหลือๆ ยังพอใส่ต่อได้ อยากช่วยเด็กๆ ติดต่อโดยตรงไปที่ครูบั๊มได้เลย เบอร์โทรศัพท์ 09-6898-5429 หรือแอดเฟซบุ๊ค บั้ม พสิษฐ์ ไปสอบถามกันก่อนก็ได้
การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือให้โอกาส ไม่แน่สักวันเด็กตีนเปล่าเหล่านี้ อาจก้าวไปสู่ทีมชาติ เพราะหนึ่งพลังสนับสนุนจากท่าน.
วิ่งมรดกโลกถึงคิว "เขาใหญ่"
สโลว์ไลฟ์-สัมผัสวิถีชาวบ้าน
ซีรีส์ "วิ่งมรดกโลก" สัปดาห์ที่ผ่านมา ไปจัดที่อุดรธานี ในงาน “ยูนิค รันนิ่ง บ้านเชียงมาราธอน 2019” ที่ลานกิจกรรมชุมชนบ้านเชียง ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี
แชมป์มาราธอนชาย ธีรวัฒน์ สุภารี 3.19.25 ชม., หญิง โศรตรี สายงาม 4.00.22 ชม., ฮาล์ฟมาราธอน ชาย วิทย์สรัช สุจารี 1.23.25 ชม., หญิง พรทิพย์ น้ำใส 1.48.17 ชม. , มินิมาราธอน ชาย ด.ต.นพพร แก่นสิงห์ 44.37 นาที., หญิง จิราภรณ์ ฐิติปรีชารักษ์ 54.50 นาที
จุดขายงาน ไม่ใช่เพียงวิ่ง แต่พาไปเที่ยวในแบบ “วิ่ง เที่ยว พัก เพลิน” อย่างงานที่บ้านเชียง เขาจัดเส้นทางสายอารยธรรมบ้านเชียง 5,000 ปี วิถีไทพวน ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ พัก โฮมสเตย์ สัมผัสใกล้ชิดกับบรรยากาศท้องถิ่นวิถีชาวไทพวน เพลิน, ชิมอาหารถิ่นบ้านเชียง อย่าง ข้าวผัดข่าแจ่วหอมหวานบ้านเชียง, ข้าวปาด (ใครรู้จัก ยกมือขึ้น) โดยนำเสนอรูปแบบบนแคร่อีสานย้อนยุค, กิจกรรมศิลปหัตถกรรม
สีสันงาน ยูนิค รันนิ่ง บ้านเชียงมาราธอน
อันนั้นจบไป สเตจหน้า ไปที่เขาใหญ่ "ยูนิค รันนิ่ง เขาใหญ่ฮาล์ฟมาราธอน 2019" วันที่ 3 มีนาคม
กิจกรรมเสริม ปฏิญาณตนต่อเจ้าพ่อเขาใหญ่, ตักบาตรท่ามกลางธรรมชาติงดงาม, อาหารอร่อยจากบูธต่างๆ การออกร้านค้าสินค้าคุณภาพของ OTOP, เคล้าดนตรีโฟล์คซอง เรียกว่าทั้งวิ่ง ทั้งเที่ยวในทริปเดียว
สมัครออนไลน์หมดเวลาแล้ว ยังมีสมัครหน้างานได้ในวันที่ 2 มีนาคม ก่อนวันแข่ง 1 วัน หรือสอบถามได้ที่ บจก.ได-อิจิ คิคากุ (ประเทศไทย) 0-2949-2855 หรือ https://WWW.GOODSPORTSTHAILAND.COM หรือ FB/ INSTAGRAM : UNIQUERUNNING และ LINE@ GOODSPORTSTHAILAND.
พิชิต "ใบหยก" 84 ชั้น-2,060 ขั้น
ควงมาเป็นคู่ มีลุ้นรางวัล
รายการนี้ก็จัดวันที่ 3 มีนาคม
“ใบหยก รัน-อัพ อินเตอร์เนชั่นแนล 2019” วิ่งแนวตั้งพิชิตตึกสูงเมืองไทย 84 ชั้น 2,060 ขั้นบันได
ประเภทบุคคล มีแน่นอนเป็นปกติ แต่ปีนี้เพิ่มประเภท "บัดดี้รัน" เข้ามา
วิ่งเป็นคู่ จะคู่เพื่อน คู่สามีภรรยา คู่รัก คู่จิ้น ได้หมด ขออย่างเดียวว่า ในคู่นั้นต้องมีผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน เพื่อความใกล้เคียงในการแข่งขัน ใครเข้าเส้นชัยเร็ว มีของที่ระลึกจัดให้
งานนี้ได้รับความนิยมทุกปี ปีนี้ก็เช่นกัน เปิดปุ๊บ เต็มปั๊บ เพราะรับจำกัด 600 คนเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่ตีวงวิ่งตรงบันไดทางหนีไฟ ปล่อยตัวเป็นชุดๆ ถ้ามากันเยอะ รอคิวนาน วอร์มจนขาแข็ง
ถึงชั้น 84 ก็จะฟินแบบนี้
ไอ้เหนื่อยน่ะมันเหนื่อยแน่นอน ว่ากันว่าใช้พลังงาน 3 เท่าของการวิ่งที่ราบ เทียบๆ ก็ประมาณสับสปรินท์รวดเดียว
ใครไม่เคยลอง ก็น่าลอง เก็บไปเล่าได้ว่า "เคยแล้ว" (ถ้าคุณยังไม่มีปัญหาเรื่องเข่า)
เป็นความแปลก แตกต่าง วิ่งต้านแรงโน้มถ่วงโลก เริ่มจากวนชั้นจอดรถ ก่อนลุยขึ้นบันได อยู่พื้นที่จำกัด ซึ่งฝ่ายจัดฯ จัดระบบถ่ายเทอากาศ ขึ้นไปชั้นบน ชมวิวกทม.ให้หายเหนื่อย เพราะไม่ใช่อยากจะขึ้น ก็เดินไปบอกรปภ.ขอขึ้นได้ง่ายๆ บอกได้เลยว่า เมื่อผ่านขั้นสุดท้ายถึงชั้น 84 คุณจะรู้สึกว่า "สวรรค์มีจริง"
ถ้าสนใจ สงสัยปีนี้จะไม่ทัน ต้องรอปีหน้า หรือไม่ก็คอยส่องนักวิ่งที่สมัครได้แต่ติดธุระปล่อย BIB รอรับช่วงต่อเอาแล้วกันเด้อ.
*** วุฒินล ***