นายกตี๋-สินทวีชัย : 'เราไม่ได้ตั้งสมาคมฯมาทะเลาะกับใคร'
กีฬา
Webmaster
2019-02-19 14:24:00
9
Webmaster
2019-02-19 14:24:00
9
-
สนับสนุนเนื่อหา
สมาคมใหม่เอี่ยมอ่อง ที่เพิ่งตั้งได้ไม่นาน
ทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์ มีโอกาสจับเข่าคุย ถึงที่มา ที่ไปของการก่อตั้งสมาคมฯ
"ผมมองว่า ความมั่นคงในอาชีพ มันส่งผลถึงประสิทธิภาพของนักเตะในสนาม" เจ้าตี๋ เริ่มกล่าว
"นักฟุตบอลจะทำหน้าที่ได้ดีได้อย่างไร ถ้ายังต้องกังวลกับเรื่องนอกสนาม ซ้อมบอล แข่งบอล ไม่รู้ชะตากรรมว่าจะได้เงินตอบแทนหรือไม่ ครบไหม หรือทีมจะยุบเมื่อไหร่"
"ถ้าผมมีลูกจะเป็นนักฟุตบอล ผมต้องคิดแล้วว่า เขาจะเอาตัวรอดไหม ยังไงต้องให้เขาเกาะเรื่องเรียน เกาะอาชีพอื่นไว้ด้วย คงให้เขาไปมุ่งกับฟุตบอลไม่ได้"
ยอดโกลนิสัยดี บอกว่า จุดเริ่มต้นของความคิดนี้ เริ่มขึ้นราว 6 ปี ก่อน ได้ไปดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฟุตบอลเจลีก ทราบมาว่านักเตะมีสมาธิ มีความมุ่งมั่นในสนามเพียงอย่างเดียว เพราะเรื่องเงินตอบแทนชัดเจน มีความมั่นคง จึงย้อนกลับมาดูที่นักเตะไทย
"หลายๆ ข้อสัญญาของนักฟุตบอลไทย สโมสรมักเขียนไว้ว่า สามารถยกเลิกสัญญาได้ตลอดเวลา ส่งผลถึงความมั่นคง ซ้อมไป เล่นไป ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น"
"บางทีพอเกิดเหตุแล้ว ด้วยวัฒนธรรมคนไทย เกรงใจ ไม่มาพูดคุยกัน ทำความเข้าใจให้ตรงกัน สมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ พร้อมจะเป็นตัวกลาง"
วัฒนธรรมคนไทย มีเด็ก-ผู้ใหญ่ แล้ว "นายกตี๋-สินทวีชัย" ไม่กลัวผิดใจกับผู้บริหาร ที่เกิดข้อพิพาทหรือ?
"หน่วยงานของเราไม่ได้มีไว้ทะเลาะกับใคร" โกล พ่อลูกอ่อน กล่าวชัดเจน
"คำว่าตัวกลางคือ เราพร้อมช่วยเจรจา ถ้าเกิดเรื่องขึ้น การเจรจา ประนีประนอมเป็นเรื่องดีที่สุดอยู่แล้ว"
"มันไม่ใช่ว่าจะต้องไปถึงชั้นศาลทุกเรื่อง ก่อนอื่นก็ต้องมาคุยกัน ว่าเรื่องมันเกิดอย่างไร หาจุดลงตัวได้ตรงไหน"
"อีกมุมหนึ่ง เราก็เข้าใจสโมสร อาจเจอปัญหาเศรษฐกิจ ก็มาคุยกัน ตกลงกันให้ได้"
"เราไม่ได้จะชนดะ บางทีสโมสรก็ไม่ผิด จะชนได้อย่างไร ปัญหาหนึ่งคือไม่ได้มาคุยกันมากกว่า ดังนั้น มาพูดคุยกันคือเรื่องดีที่สุด"
อีกปัญหาหนึ่ง คือเรื่องของสัญญา ที่นักฟุตบอลไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อนจะจรดปากกาเซ็นลงไป
"นักฟุตบอลต้องรู้ และเข้าใจในสัญญา นักเตะก็ต้องมีความรู้ทางกฎหมายบ้าง"
"หลายๆ เคสที่นักฟุตบอลมาร้องเรียนกับเรา พอฝ่ายกฎหมายดูแล้ว ตันเลย ไปต่อไม่ได้ เพราะคุณเซ็นไปแล้ว ฟ้องไปก็แพ้ ทั้งที่สมัยนี้นักบอลก็มีเอเยนต์อยู่แล้ว เอเยนต์ที่ดี ก็ต้องดูสัญญาปกป้องประโยชน์นักบอล"
สินทวีชัย กล่าวว่า ก่อนจรดปากกาเซ็นสัญญา อยากให้ศึกษาให้ดีๆ อ่านดูให้ดีๆ ก่อน หรือจะเอาสัญญามาปรึกษากับสมาคมก็ได้ เพราะเท่าที่ดูแล้ว หลายๆ กรณีที่เป็นสัญญาที่นักฟุตบอลเสียเปรียบมาก
สัญญาที่เป็นมาตรฐาน เป็นธรรมกับทุกฝ่าย คือหนึ่งในเรื่องที่ นายกตี๋ พยายามผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้
"สัญญาที่เกิดขึ้น ต้องเหมาะสม วินทั้ง 2 ฝ่าย อย่างเช่นมีช่องว่างให้สโมสรยกเลิกสัญญาได้ แบบนี้ไม่แฟร์ ขณะเดียวกัน ถ้าสัญญายาวหลายปีเกินไป ก็ไม่แฟร์กับสโมสรเช่นกัน เพราะบางทีนักบอลได้สัญญายาวๆ อาจขาดความกระตือรือร้น รักษามาตรฐานของฟอร์ม"
ตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติไทย กล่าวว่า ในประเทศไทย ควรจะมีหน่วยงานที่มาดูแลเรื่องกฎหมายนักกีฬา กฎหมายนักฟุตบอล รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการให้ นักฟุตบอล กับ สโมสร มาพูดคุย เพื่อหาจุดตรงกัน ของการร่างสัญญาที่เป็นมาตรฐาน
"เราต้องมีสัญญาที่เป็นมาตรฐาน ยึดเป็นหลัก ที่ต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย"
ก่อนอื่น นายกตี๋ ฝากบอกถึงนักเตะว่า ขอให้เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกสมาคมฯ กันก่อน
"อยากให้เข้ามาเป็นเมมเบอร์ เราพยายามให้ความรู้ ส่วนเรื่องสวัสดิการ เราค่อยๆ ทำกันไป ตอนนี้ยังเป็นสมาคมใหม่ แต่ต่อไปก็จะช่วยได้มากขึ้น เช่น เวลาเจ็บ จะไปรักษาโรงพยาบาลเฉพาะทาง การผ่าเข่า, หาแพทย์ที่เชี่ยวชาญ, ดำเนินการเร่งรัดให้การรักษารวดเร็วยิ่งขึ้น หรือแม้แต่หาครูสอนภาษาอังกฤษ ผลักดันไปเล่นต่างแดน"
นับเป็นหน้าที่ที่ดูแล้วเป็นงานหนักไม่น้อย สำหรับ สินทวีชัย ที่ตอนนี้ก็ยังเล่นในไทยลีกอยู่
"เหนื่อยน่ะ ไม่เหนื่อยหรอกครับ แต่เคสต่างๆที่เราเจอ มันจะละเอียด ยิบย่อยหน่อย ต้องทำตามขั้นตอน ก็ต้องใช้สมาธิ ใช้เวลา หลังจากว่างจาการซ้อม"
"เราอยากพัฒนาจริงๆ ปัญหาเหล่านี้มันเกิดขึ้นนานแล้ว ผมก็อยู่วงการฟุตบอลอาชีพ เห็นอะไรมาเยอะ สิ่งที่ช่วยได้ ก็อยากลงมือทำ"
"ประเทศพัฒนาฟุตบอล เขามีกันมานานแล้ว เรื่องนี้ผมว่าสำคัญ ถ้าไม่ทำตอนนี้ ก็ไม่รู้จะทำตอนไหนครับ"
เป็นความตั้งใจ จริงใจ ของนักฟุตบอลนิสัยดี "ตี๋" สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่มีต่อเพื่อนร่วมอาชีพ
พลังขับเคลื่อนสำคัญ ที่เริ่มหมุนฟันเฟือง หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน จะเป็นแรงผลักดันให้วงการฟุตบอลอาชีพพัฒนายิ่งขึ้น.
*** วุฒินล บุญวานิช ****
ทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์ มีโอกาสจับเข่าคุย ถึงที่มา ที่ไปของการก่อตั้งสมาคมฯ
"ผมมองว่า ความมั่นคงในอาชีพ มันส่งผลถึงประสิทธิภาพของนักเตะในสนาม" เจ้าตี๋ เริ่มกล่าว
"นักฟุตบอลจะทำหน้าที่ได้ดีได้อย่างไร ถ้ายังต้องกังวลกับเรื่องนอกสนาม ซ้อมบอล แข่งบอล ไม่รู้ชะตากรรมว่าจะได้เงินตอบแทนหรือไม่ ครบไหม หรือทีมจะยุบเมื่อไหร่"
"ถ้าผมมีลูกจะเป็นนักฟุตบอล ผมต้องคิดแล้วว่า เขาจะเอาตัวรอดไหม ยังไงต้องให้เขาเกาะเรื่องเรียน เกาะอาชีพอื่นไว้ด้วย คงให้เขาไปมุ่งกับฟุตบอลไม่ได้"
ยอดโกลนิสัยดี บอกว่า จุดเริ่มต้นของความคิดนี้ เริ่มขึ้นราว 6 ปี ก่อน ได้ไปดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฟุตบอลเจลีก ทราบมาว่านักเตะมีสมาธิ มีความมุ่งมั่นในสนามเพียงอย่างเดียว เพราะเรื่องเงินตอบแทนชัดเจน มีความมั่นคง จึงย้อนกลับมาดูที่นักเตะไทย
"หลายๆ ข้อสัญญาของนักฟุตบอลไทย สโมสรมักเขียนไว้ว่า สามารถยกเลิกสัญญาได้ตลอดเวลา ส่งผลถึงความมั่นคง ซ้อมไป เล่นไป ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น"
"บางทีพอเกิดเหตุแล้ว ด้วยวัฒนธรรมคนไทย เกรงใจ ไม่มาพูดคุยกัน ทำความเข้าใจให้ตรงกัน สมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ พร้อมจะเป็นตัวกลาง"
วัฒนธรรมคนไทย มีเด็ก-ผู้ใหญ่ แล้ว "นายกตี๋-สินทวีชัย" ไม่กลัวผิดใจกับผู้บริหาร ที่เกิดข้อพิพาทหรือ?
"หน่วยงานของเราไม่ได้มีไว้ทะเลาะกับใคร" โกล พ่อลูกอ่อน กล่าวชัดเจน
"คำว่าตัวกลางคือ เราพร้อมช่วยเจรจา ถ้าเกิดเรื่องขึ้น การเจรจา ประนีประนอมเป็นเรื่องดีที่สุดอยู่แล้ว"
"มันไม่ใช่ว่าจะต้องไปถึงชั้นศาลทุกเรื่อง ก่อนอื่นก็ต้องมาคุยกัน ว่าเรื่องมันเกิดอย่างไร หาจุดลงตัวได้ตรงไหน"
"อีกมุมหนึ่ง เราก็เข้าใจสโมสร อาจเจอปัญหาเศรษฐกิจ ก็มาคุยกัน ตกลงกันให้ได้"
"เราไม่ได้จะชนดะ บางทีสโมสรก็ไม่ผิด จะชนได้อย่างไร ปัญหาหนึ่งคือไม่ได้มาคุยกันมากกว่า ดังนั้น มาพูดคุยกันคือเรื่องดีที่สุด"
อีกปัญหาหนึ่ง คือเรื่องของสัญญา ที่นักฟุตบอลไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อนจะจรดปากกาเซ็นลงไป
"นักฟุตบอลต้องรู้ และเข้าใจในสัญญา นักเตะก็ต้องมีความรู้ทางกฎหมายบ้าง"
"หลายๆ เคสที่นักฟุตบอลมาร้องเรียนกับเรา พอฝ่ายกฎหมายดูแล้ว ตันเลย ไปต่อไม่ได้ เพราะคุณเซ็นไปแล้ว ฟ้องไปก็แพ้ ทั้งที่สมัยนี้นักบอลก็มีเอเยนต์อยู่แล้ว เอเยนต์ที่ดี ก็ต้องดูสัญญาปกป้องประโยชน์นักบอล"
สินทวีชัย กล่าวว่า ก่อนจรดปากกาเซ็นสัญญา อยากให้ศึกษาให้ดีๆ อ่านดูให้ดีๆ ก่อน หรือจะเอาสัญญามาปรึกษากับสมาคมก็ได้ เพราะเท่าที่ดูแล้ว หลายๆ กรณีที่เป็นสัญญาที่นักฟุตบอลเสียเปรียบมาก
สัญญาที่เป็นมาตรฐาน เป็นธรรมกับทุกฝ่าย คือหนึ่งในเรื่องที่ นายกตี๋ พยายามผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้
"สัญญาที่เกิดขึ้น ต้องเหมาะสม วินทั้ง 2 ฝ่าย อย่างเช่นมีช่องว่างให้สโมสรยกเลิกสัญญาได้ แบบนี้ไม่แฟร์ ขณะเดียวกัน ถ้าสัญญายาวหลายปีเกินไป ก็ไม่แฟร์กับสโมสรเช่นกัน เพราะบางทีนักบอลได้สัญญายาวๆ อาจขาดความกระตือรือร้น รักษามาตรฐานของฟอร์ม"
ตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติไทย กล่าวว่า ในประเทศไทย ควรจะมีหน่วยงานที่มาดูแลเรื่องกฎหมายนักกีฬา กฎหมายนักฟุตบอล รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการให้ นักฟุตบอล กับ สโมสร มาพูดคุย เพื่อหาจุดตรงกัน ของการร่างสัญญาที่เป็นมาตรฐาน
"เราต้องมีสัญญาที่เป็นมาตรฐาน ยึดเป็นหลัก ที่ต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย"
ก่อนอื่น นายกตี๋ ฝากบอกถึงนักเตะว่า ขอให้เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกสมาคมฯ กันก่อน
"อยากให้เข้ามาเป็นเมมเบอร์ เราพยายามให้ความรู้ ส่วนเรื่องสวัสดิการ เราค่อยๆ ทำกันไป ตอนนี้ยังเป็นสมาคมใหม่ แต่ต่อไปก็จะช่วยได้มากขึ้น เช่น เวลาเจ็บ จะไปรักษาโรงพยาบาลเฉพาะทาง การผ่าเข่า, หาแพทย์ที่เชี่ยวชาญ, ดำเนินการเร่งรัดให้การรักษารวดเร็วยิ่งขึ้น หรือแม้แต่หาครูสอนภาษาอังกฤษ ผลักดันไปเล่นต่างแดน"
นับเป็นหน้าที่ที่ดูแล้วเป็นงานหนักไม่น้อย สำหรับ สินทวีชัย ที่ตอนนี้ก็ยังเล่นในไทยลีกอยู่
"เหนื่อยน่ะ ไม่เหนื่อยหรอกครับ แต่เคสต่างๆที่เราเจอ มันจะละเอียด ยิบย่อยหน่อย ต้องทำตามขั้นตอน ก็ต้องใช้สมาธิ ใช้เวลา หลังจากว่างจาการซ้อม"
"เราอยากพัฒนาจริงๆ ปัญหาเหล่านี้มันเกิดขึ้นนานแล้ว ผมก็อยู่วงการฟุตบอลอาชีพ เห็นอะไรมาเยอะ สิ่งที่ช่วยได้ ก็อยากลงมือทำ"
"ประเทศพัฒนาฟุตบอล เขามีกันมานานแล้ว เรื่องนี้ผมว่าสำคัญ ถ้าไม่ทำตอนนี้ ก็ไม่รู้จะทำตอนไหนครับ"
เป็นความตั้งใจ จริงใจ ของนักฟุตบอลนิสัยดี "ตี๋" สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่มีต่อเพื่อนร่วมอาชีพ
พลังขับเคลื่อนสำคัญ ที่เริ่มหมุนฟันเฟือง หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน จะเป็นแรงผลักดันให้วงการฟุตบอลอาชีพพัฒนายิ่งขึ้น.
*** วุฒินล บุญวานิช ****
