ข่าวตั้ง 'เสี่ยบิ๊ก' นั่ง 'พ่อบ้านเทควันโด' ลุยงานใหญ่ทั้งปี - kachon.com

"บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2562 นั้น เป็นอีกปีที่นักกีฬาเทควันโดของไทย มีภารกิจในการเข้าร่วมการแข่งขันแมทช์นานาชาติมากมายหลายรายการ เนื่องจากจะต้องเก็บคะแนนสะสมเพื่อลุ้นโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ของสมาคมฯ นั้น เพื่อให้การทำงานของสมาคมฯ มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งๆ ขึ้นไป ตนจึงได้มีการปรับตำแหน่งของคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ด้วยการแต่งตั้งให้ "เสี่ยบิ๊ก" นายธนฑิตย์ รักตะบุตร รองเลขาธิการสมาคมกีฬาเทควันโดฯ มารับหน้าที่เป็นเลขาธิการสมาคมกีฬาเทควันโดฯ คนใหม่ โดยในส่วนของนายเลิศ นิตย์ธีรานนท์ อดีตเลขาธิการสมาคมฯ ซึ่งธุรกิจส่วนตัวค่อนข้างจะรัดตัวนั้น ก็ยังร่วมทำงานอยู่ในฐานะอุปนายกและเหรัญญิกฯ อยู่เหมือนเดิม



"จริงๆ คุณธนฑิตย์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ได้เข้ามาช่วยงานในตำแหน่งรองเลขาธิการสมาคมฯ เป็นเวลา 1 ปีเต็มแล้ว ถือว่าผลงานสอบผ่าน สามารถมาช่วยงานสมาคมฯ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือการคุมทีมเทควันโดไทย ไปแข่งขันในแต่ละรายการจะได้ทำหน้าที่ดูแลนักกีฬาและประสานงานกับฝ่ายต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งปีนี้จะประเดิมแมทช์แรกในฐานะผู้จัดการทีมเทควันโดไทย นำทัพไปลุยศึกเทควันโดชิงแชมป์โลก 2019 ระดับ G12 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 15-19 พ.ค.นี้" บิ๊กเอ กล่าว

ทางด้าน "เสี่ยบิ๊ก" นายธนฑิตย์ รักตะบุตร พ่อบ้านเทควันโดป้ายแดง กล่าวว่า รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจจากนายกสมาคมฯ ให้รับตำแหน่งสำคัญนี้ การได้ทำงานกับสมาคมฯ 1 ปีเต็มๆ ที่ผ่านมานั้น ตนได้ลงไปสัมผัสกับนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน ตลอดจนผู้ปกครองของนักกีฬาและแฟนคลับ และยังได้ประสานงานกับทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อย่างเต็มที่ ทำให้ได้เรียนรู้ระบบการทำงานเป็นอย่างดี



ทั้งนี้ ตนจะสนับสนุนการทำงานของสมาคมฯ ในทุกๆ มิติ ซึ่งนโยบายที่ "บิ๊กเอ" ดำเนินมาตลอดนั้นถือว่าดีมาก สามารถพัฒนาและยกระดับนักกีฬาเทควันโดไทย ทั้งประเทต่อสู้และท่ารำ จนไปอยู่แถวหน้าของโลก ส่วนการที่ตนเข้ามาก็จะพยายามใช้ความสามารถด้านการบริหารมาเสริมและสนับสนุนให้ดียิ่งขึ้นไป

"ตอนนี้ทีมเทควันโดไทยมีความแข็งแกร่งและก้าวขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการนำของ ผศ.พิมล และทีมผุ้บริหาร รวมทั้งกลุ่มผู้สนับสนุน ตลอดจนได้รับความร่วมมือร่วมใจจากสโมสรสมาชิกเป็นอย่างดี ในอนาคตผมมองว่าหากเราผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ระดับนานาชาติได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะทุกประเทศที่มาเมืองไทยล้วนต่างชื่นชอบและชื่นชมการทำงานของสมาคมฯ โดยเฉพาะล่าสุดกับการอบรมผู้ตัดสินนานาชาติเมื่อปลายปีที่ผ่านมาผู้ตัดสินกว่า 200 ชาติ ที่มาร่วมงานต่างชื่นชมว่าจัดงานได้อย่างยอดเยี่ยมและอยากให้ไทยเป็นเจ้าภาพงานใหญ่ๆ อีก" เสี่ยบิ๊ก กล่าว