ข่าวนักกีฬาบุรีรัมย์เกมส์ดูฟรี 'ปราสาท' ดวล 'สวาทแคท' - kachon.com

เมื่อ 12 ก.พ. ที่โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ กรุงเทพมหานคร "บิ๊กก้อง" ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วย นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกันเป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการและจับสลากแบ่งสายการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 35 "บุรีรัมย์เกมส์" ซึ่งจะแข่งขันระหว่าง 10-20 พ.ค.นี้

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า เนื่องจาก พรก.เลือกตั้งประกาศการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ซึ่งตรงกับกำหนดเดิมของการแข่งขัน 19-29 มี.ค. ทำให้ กกท. ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป ซึ่ง จ.บุรีรัมย์ ถือว่ามีความพร้อมอย่างมากสำหรับความเปลี่ยนแปลง และเป็นจังหวัดที่มีประสบการณ์การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับโลกมาแล้วมากมาย

ขณะที่ นายดำรงชัย เนรมิตตกพงษ์ กล่าวว่า แม้จะต้องปรับเปลี่ยนช่วงเวลาก็ไม่มีปัญหา โดยเราปรับให้เขตการศึกษาของบุรีรัมย์ ขยับวันเปิดเทอมขึ้นมาจากวันที่ 16 พ.ค. เป็นวันที่ 1 พ.ค. เพื่อให้เยาวชนในจังหวัดได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมนี้ และในช่วงแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ จะตรงกับการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 (ไทยลีก 1) ที่ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ 6 สมัย จะเปิดบ้านทำศึกดาร์บี้แมทช์แดนอิสาน พบกับ "สวาทแคท" นครราชสีมา มาสดา เอฟซี  ในวันที่ 11 พ.ค. และยังตรงกับการแข่งขันรถแข่งซูเปอร์ คาร์ "บล็องแปง จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย" และ "เอฟ 3 เอเชี่ยน แชมเปี้ยนชิพ" ระหว่างวันที่ 11-12 พ.ค. นั้น ทางนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แจ้งว่า นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่มีบัตรประจำตัวนักกีฬา (เอดี การ์ด) มาแสดงสามารถเข้าชมเกมการแข่งขันได้ฟรี

"แม้ว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเป็นแชมป์ไทยลีกมาแล้วถึง 6 สมัย แต่ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ยังไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนครั้งนี้เราไม่สามารถส่งทีมเยาวชนในอะคาเดมี่ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงแข่งขันได้ เพราะลงทะเบียนแข่งขันยูธลีกไปแล้ว แต่ได้คัดตัวนักเตะเยาวชนฝีเท้าดีจาก 10 โรงเรียนในจังหวัด โดย "ปราสาทสายฟ้า" ส่งโค้ชของทีมอะคาเดมี่ มาช่วยดูด้วย ส่วนเป้าหมายหวังจะติดเหรียญครั้งแรก แต่นายเนวิน ชิดชอบ ฝากบอกเด็กๆ เพียงว่า อย่าตกรอบแรกเป็นพอ และจะมาให้กำลังใจในช่วงแข่งชขันด้วย ส่วนเป้าหมายของเจ้าภาพมองไว้ที่ 15 เหรียญทอง" นายดำรงชัย กล่าว

ส่วนผลการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลชาย มีดังนี้ กลุ่ม A สมุทรปราการ แชมป์เก่า, นนทบุรี, นครราชสีมา, กลุ่ม B ชลบุรี, ปัตตานี, ขอนแก่น กลุ่ม C สุพรรณบุรี, สุโขทัย, นครสวรรค์ และกลุ่ม D บุรีรัมย์ เจ้าภาพ, เชียงใหม่, กระบี่.