ข่าวเปิดหลัก4ข้อใช้VARฤดกาลใหม่ไทยลีก - kachon.com

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ม.ค.  ที่สนามหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทยฯ(กกท.) สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน นำโดย "เปาอ้อ" นางสาวพัณณิภา คำนึง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินสมาคมฯ ร่วมกันทำกิจกรรมทบทวนความรู้ประจำสัปดาห์และจัดการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้ตัดสินในระดับ โตโยต้า ไทยลีก (ไทยลีก 1) , เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2) และผู้ตัดสินฟุตซอล เตรียมความพร้อมสำหรับการทำหน้าที่ในการแข่งขันฤดูกาล 2019

พัณณิภา คำนึง กล่าวว่า การพัฒนาผู้ตัดสิน แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ทางเทคนิคและฟิตเนส ในทางเทคนิค ได้พัฒนาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา มีการจัดอบรมและสัมมนาให้กับผู้ตัดสินเช่นเดียวกับการพัฒนาสมรรถภาพร่างกาย ได้ทดสอบสมรรถภาพร่างกายผู้ตัดสิน ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และช่วงต้นเดือน ก.พ. จะจัดการทดสอบอีกครั้งสำหรับผู้ตัดสินที่มีสมรรถภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ สภาพตอนนี้ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ 

หัวหน้าเปาลูกหนังไทย กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่เน้นเป็นพิเศษในฤดูกาล 2019 นี้ จะมีการใช้ระบบวีดิทัศน์ช่วยตัดสิน หรือ VAR (Video Assistant Referee) มาใช้ในไทยลีก ฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินจึงได้เตรียมประชุมทุกๆ สัปดาห์ให้กับผู้ตัดสินไทยลีก ศึกษาคลิปวีดีโอต่างๆ มุมกล้อง หรือกติกา ระเบียบการใช้ เพราะ VAR เป็นสิ่งที่แปลกใหม่และค่อนข้างยาก

"ปีนี้เราร่างระเบียบในการแข่งขันของการใช้ VAR กฎระเบียบในการลงโทษ เพราะฉะนั้นต้องเข้มข้นมากกว่าปีที่แล้ว เราเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุดให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด สำหรับทำหน้าที่ในการใช้ VAR" เปาอ้อ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหลักเกณฑ์การใช้ VAR ที่จะทำให้ผู้ตัดสินเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจใหม่ ในส่วนเกี่ยวข้องของความผิดพลาดที่ชัดเจนและชัดแจ้ง หรือเหตุการณ์ผิดพลาดที่มีความสำคัญอย่างมาก ใน 4 กรณี คือ 1.เป็นประตู/ไม่เป็นประตู 2.จุดโทษ/ไม่จุดโทษ 3.ใบแดงโดยตรง(มิใช่จากใบเหลืองที่ 2/คาดโทษ) 4.การให้ใบเหลือง-ใบแดง ผิดคน

ทั้งนี้ สำหรับผู้เล่นและเจ้าหน้าที่ทีม ไม่จำเป็นต้องขอให้ตรวจสอบ และทบทวน เพราะ VAR จะตรวจสอบทุกสถานการณ์โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว รวมทั้งต้องไม่พยายามแทรกแซงกระบวนการทบทวน, ขั้นตอนการแจ้งผลการตัดสินใจ และหากผู้เล่น, เจ้าหน้าที่ทีมแสดงสัญญาณจอโทรทัศน์ เรียกร้องใช้ VAR มากเกินไป หรือเข้าพื้นที่ตรวจสอบของผู้ตัดสิน มีสิทธิ์ได้รับใบเหลือง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับโปรแกรมฤดูกาล 2019 จะเริ่มด้วยศึกไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ล้างตา สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ช้างเอฟเอคัพ  วันที่ 2 ก.พ. ที่สนามกีฬากองทัพบก เวลา 19.00 น. จากนั้น ไทยลีก 2 เปิดสนามวันที่ 9-10 ก.พ. ขณะที่ ไทยลีก 1 เปิดสนามวันที่ 22-23-24 ก.พ. และเตะนัดสุดท้ายวันที่ 28 ต.ค.ทั้งนี้หากมีการกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไปตรงกับแมตช์ไหน ก็มีช่วงวันที่โยกไปเล่นแทน โดยรายงานข่าวระบุว่าโปรแกรมแข่งขันไทยลีก จะคลอดไม่เกินวันที่ 15 ม.ค.นี้ ส่วนฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงสคัพ วางคิวเตะไว้วันที่ 5 กับ 8 มิ.ย.